แล้วเจอกันที่ ภูเก็ต!!!

(English)  ก็ไม่ว่าเหล่าคนดัง นักร้อง นักแสดง หรือแม้แต่ดาราฮอลีวู้ด หรือใครๆ ก็อยากไปภูเก็ต ยิ่งคนต่างชาติเวลาคิดถึงทะเลในประเทศไทย ก็คิดถึงภูเก็ตเป็นที่แรกๆ (บางคนได้ยินแต่ชื่อภูเก็ต ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอยู่ในประเทศไทย) ทริปนี้พวกเราตัดสินใจไปภูเก็ต ไปให้มันรู้ดำรู้แดงไปเลยว่า จริงๆ แล้วเป็นยังไง ทำไมใครๆ ก็อยากไปภูเก็ตกันจังนะ 

แต่จู่ๆ ก็มีคำฮิตของทริปนี้ของเรา หลังจากเจอใครก็ไม่รู้ (อาจจะเป็นแฟนคลับ?)มาทักมาถามว่าวันหยุดนี้ไปไหน พอเราบอกว่าไปภูเก็ต ชายคนนั้นก็ตะโกนพร้อมท่าทางแอคติ้งเหลือรับประทานว่า “แล้วเจอกันที่ ภูเก็ต!” แต่จนทุกวันนี้ก็ยังไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร???

แต่ไม่เป็นไร ถึงมาก็หากันไม่เจอ(เสียดาย 5555) เพราะภูเก็ตเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ใหญ่จนต้องสถาปนาจากเกาะเป็นจังหวัดๆ หนึ่งของประเทศไทยไปเลย หรืออาจจะพูดได้ว่า ขนาดของเกาะภูเก็ตนั้นพอๆ กับเกาะประเทศสิงค์โปร์เลยคะ

ภูเก็ตตั้งอยู่บนทะเลอันดามัน ที่เขาว่า สวย ใส และอเมซิ่งไทยแลนด์สุดๆ ถ้าเทียบกับทะเลทางฝั่งอ่าวไทยแล้ว ทะเลทางฝั่งอันดามันมักจะได้รับความนิยมมากกว่าเสมอ (ซึ่งจริง ๆ ถ้าไม่รวมความสวยงามแบบมีเอกลักษณ์เฉพาะของหมู่เกาะ ต่างๆ บริเวณรอบๆ ฝั่งอันดามันแล้ว ไม่ว่าฝั่งไหนของประเทศไทย ทะเลก็น้ำใสเหมือนกันค่ะ)
แถมภูเก็ตยังมีจำนวนเกาะในเขตพื้นที่จังหวัดเดียวกันมากถึง 154 เกาะ นับเป็นอันดับ 2 ของประเทศไทย เพราะแพ้จังหวัดพังงาจังหวัดใกล้เคียง ที่มีมากกว่าเพียง 1 เกาะ!!!


ภูเก็ตเป็นที่ข่าวดังครั้งเกิดสึนามิ ในวันที่ 26 ธันวาคม 2547(2004) ในครั้งนั้น สึนามิถล่มประเทศไทยใน 3 จังหวัดสำคัญทางภาคใต้ ภูเก็ต พังงา และกระบี่ ที่ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 5,000 คน สูญหายอีกกว่า 2,800 คน และทำให้เด็กต้องกำพร้าพ่อแม่อีกกว่า 1,480 คน! จำได้ว่าเพื่อนๆ ฝรั่งนึกว่าสึนามินั้นถล่มทั้งประเทศไทย แต่เรานึกว่าทั้งเกาะภูเก็ต แต่จากการสอบถามคนพื้นที่ ทราบว่า เกาะภูเก็ตไม่ได้โดนสึนามิทั้งเกาะ แต่เฉพาะ บริเวณหาดป่าตอง กมลา กะตะ กะรน หาดไนยาง และกินพื้นที่ประมาณ 500 เมตรจากฝั่งทะเลมาบนบกค่ะ ส่วนบริเวณตัวเมืองภูเก็ต และหาดอื่นๆ แทบจะไม่ได้มีผลกระทบใดๆ

ซึ่งตอนนี้มีภาพยนตร์ที่น่าสนใจอยู่เรื่องหนึ่งคือ “The Impossible 2004 สึนามิ ภูเก็ต” สร้างจากประสบการณ์จริงของครอบครัวผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนั้น ดูแล้วขนลุกซู่ เหมือนจริงมากๆ

แต่หลังจากเหตุการณ์สึนามิในปี 2547 ภูเก็ตก็มีการซ้อมหนีภัยสึนามิทุกปี แถมปีป้ายอพยพและหนีภัยบอกทุกชายหาด (แต่บางป้าย มีร้านค้าขวางทาง!!!) ทุกวันนี้ บริเวณชายหาดกลับมาคึกคักและแทบไม่มีร่องรอยความเสียหายให้เห็นเลย…

เกาะภูเก็ตกลับมาสวยใสและมีมากมายหลายหาดให้นักท่องเที่ยวเลือกเหมือนเช่นเคย แต่ที่ดังๆ เรียงลำดับตามความนิยมและสิ่งอำนวยความสะดวก ได้แก่ หาดป่าตอง หาดกะตะ-กะรน หาดราไวย์ หาดไม้ขาว หาดสุรินทร์ ฯลฯ ครั้งนี้เราเลือกหาดป่าตองค่ะ เพราะว่ามีครบครันจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นรีสอร์ท ร้านอาหาร หรือแม้แต่ถนนคนเดินตอนกลางคืน เรียกว่ามาแล้วไม่เปลี่ยว แต่ครั้งหน้าเล็งๆ ไว้ที่หาดกะตะ-กะรน ท่าทางจะขี่มอเตอร์ไซต์เที่ยวรอบหาดง่ายดี

ท่าเรือในภูเก็ตมีหลายที่มาก เท่าที่ทราบ ก็มี ท่าเรือฉลอง ท่าเรือสำหรับเรือสปีดโบ้ทและเรือทั่วไป ส่วนท่าเรือรัษฎา เป็นท่าเรือสำหรับเรือเฟอรี่…ส่วนมากทุกทัวร์ก็รวมรถรับส่งระหว่างโรงแรมกับท่าเรือ จึงไม่ต้องห่วงเรื่องการเดินทางมาท่าเรือเท่าไร


การเดินทางไปภูเก็ต ก็ขึ้นอยู่กับว่า เดินทางจากไหน? ที่รู้ๆ หลักๆ ก็คือสามารถเดินทางไปภูเก็ตได้ทางเรือ ก็ภูเก็ตเป็นเกาะนี่ค่ะ ยังไงก็ขึ้นเรือไปได้แน่ๆ แต่ถ้าเดินทางจากกรุงเทพฯ อย่างพวกเรา เลือกวิธี ง่ายและเร็วที่สุดก็คือ ทางเครื่องบินค่ะ มีตั้งหลายสายการบินที่บินจากสนามบินดอนเมืองตรงสู่สนามบินภูเก็ต อย่างครั้งนี้พวกเราเลือกสายการบิน Air Asia เพราะว่าตารางบินเขาถี่ยิบ เรียกว่า อยากจะเดินทางกี่โมงก็มีเที่ยวบินรองรับแน่ๆ แต่ตั๋วเครื่องบินไม่ถือว่าถูกอย่างที่คิดว่า Air Asia คือสายการบิน Low cost นะคะ เพราะอย่างตั๋วไปกลับทริปนี้ คนละ 7,xxxบาท ราคายังไม่รวมกระเป๋าที่จะเช็ค และไม่รวมอาหารบนเครื่องค่ะ ถ้าคิดให้ดีๆ ราคานี้ พอๆ หรืออาจจะแพงกว่า สายการบินThai Airways (แต่ตอนนี้เปิดแต่ไทยสไมล์ สายการบินลูกที่บินจากดอนเมืองไปภูเก็ต) นอกจากนี้ยังมีสายการบิน Nok Air และ Bangkok Airways (สายการบินนี้ เฉพาะที่สนามบินสุวรรณภูมิ) ไม่ว่าสายการบินไหน จากรุงเทพฯถึงภูเก็ต ก็ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1ชั่วโมง 20นาทีค่ะ

แต่จะขับรถไปเองก็ได้ เหมาะกับกลุ่มเพื่อน หรือ ครอบครัวที่มีเวลาพักผ่อนเยอะ เพราะ ถ้าขับเรื่อยๆ มีพักบ้างอะไรบ้าง ก็น่าจะใช้เวลาประมาณ 11-12 ชั่วโมง โดยขับผ่านทางจังหวัดพังงาจังหวัดที่ใกล้ภูเก็ตที่สุด แล้วข้ามสะพานสารสินและสะพานคู่ขนาน คือ สะพานท้าวเทพกระษัตรีและสะพานท้าวศรีสุนทร เพื่อเข้าสู่ตัวเกาะจังหวัดภูเก็ต

แต่ถ้ารถทัวร์ก็ประมาณ 13-14 ชั่วโมง แต่ถ้ารถไฟ ก็ใช้เวลาประมาณ 9-11 ชั่วโมง แต่ลงได้แค่ที่สถานีที่อยู่ในอำเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี แล้วต้องต่อรถประจำทาง(เอาเอง) อีก 4 ชั่วโมง…ขอบอกว่า ชีวิตนี้ ไม่เคยคิดว่าจะเดินทางด้วยวิธีนี้เลยอ่ะค่ะ…


สำหรับคนที่ไม่เคยไปภูเก็ตเลย โรงแรมต้องให้เลือกให้ดีๆ นะคะ ถ้าเลือกผิดอาจจะต้องไปอยู่บนเกาะเล็กเกาะน้อย ให้จำว่าภูเก็ตเขามีเกาะเยอะเป็นอันดับสองของประเทศ! อย่างทริปแรกทริปนี้ของพวกเรา ก็พยายามเลือกที่อยู่บนเกาะภูเก็ตบริเวณหาดป่าตอง หาดดัง หาดที่คึกคักที่สุดของภูเก็ต (เพราะมีห้างจังซีลอน ร้านค้า ร้านอาหาร และ ถนนกลางคืน ฯลฯ)

แต่ครั้งนี้ พวกเราเลือกพักที่โรงแรม Sea Pearl Villas Resort (Patong) ไม่รู้ว่าเลือกผิด หรือเลือกถูก เพราะที่นี่เป็นรีสอร์ทขนาดใหญ่ ห้าดาว แต่ถูกมาก(แอบทำเสียงสูง) แถมดูจากแผนที่ห่างจากหาดป่าตอง แค่ 2 กิโลเมตรเอง คิดว่าเช่ามอเตอร์ไซต์ก็ได้

แต่พอไปถึงจริงๆ โรงแรมก็ไม่ไกลหรอกค่ะ แต่ ตั้งอยู่บนระหว่างกลางเขา ขนาดรถยนต์จะเลี้ยวเข้าโรงแรม ยังรอตั้งหลายนาทีกว่าจะเลี้ยวเข้าได้ เพราะรถฝั่งตรงข้ามก็ขับรถขึ้นเขาสวนมา มองไม่ค่อยเห็น แล้วอย่าได้คิดตัดหน้าเป็นอันขาด ชนกันจังๆ แน่ๆ ดังนั้น เรื่องการเช่ามอเตอร์ไซต์พวกเราเลยต้องถูกตัดออกจากโปรแกรมทันทีเพื่อรักษาชีวิตที่เหลือไปทำอย่างอื่นดีกว่า แต่ก็ยังโชคดีบ้างที่ทางโรงแรมมีรถรับส่งไปหาดป่าตองทุกวัน ตั้งแต่เจ็ดโมงเช้าไปถึงสองทุ่ม แต่แหม สองทุ่มเพิ่งเป็นเวลาเริ่มต้นของที่นี่ และพวกเรากลับดึกกว่าสองทุ่มทุกคืน คือที่นี่เขาเป็นเมืองท่องเที่ยวนะคะ สุดท้ายคือได้นั่งรถโรงแรมไปป่าตองฟรีทุกคืน แต่เสียค่ารถตุ๊กตุ๊กกลับมาโรงแรมคืนละ 250 บาท ทุกคืนเช่นกัน… โรงแรมน่าจะพิจารณาเพิ่มเวลาเดินรถของโรงแรมบ้างนะคะ

แต่สิ่งที่เราประทับใจโรงแรมมากที่สุดคือ ราคาห้อง กับขนาดของห้องนั้นเรียกว่าเกินคุ้ม ถือว่าเราได้ห้องพักแบบอพาร์ทเมนท์ที่มีห้องนั่งเล่น ห้องนอน ห้องน้ำ 2 ห้อง แถมยังมีโซนครัว และอ่างจากุซซี่ส่วนตัวตรงระเบียงอีกด้วย ทั้งหมดที่กล่าวไปสนนราคาเข้าพักของพวกเราผ่าน อโกด้า ที่คืนละ 4,4xx บาท คุ้มมาก รู้สึกเหมือนอยู่คอนโดฯส่วนตัว

แถมพนักงานเขาก็พยายามดูแลดีมาก แต่บางคนก็มากเกินไป อย่างคุณ รปภ ที่จู่ๆ คืนที่ 3 แล้ว เขาก็มาทักว่า เรามาได้ไง เพื่อนพามาพักเหรอ? ไปรายงานตัวที่ล็อบบี้ก่อน คือไม่อยากเล่าเหตุการณ์จริงมันออกแนวไม่รู้กาละเทศะค่ะ ซึ่งอาจจะมาจากหน้าที่ และระบบความปลอดภัยของเขา แต่ไม่ว่าจะด้วยอะไร เราถือว่ามันเป็นความผิดพลาด เพราะมันคืนที่ 3 แล้วนะคุณขา แถม ห้องพักก็ติดกับล็อบบี้ขนาดนั้น มันไม่น่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้กับโรงแรมห้าดาว ทุกคนน่าจะถูกเทรนให้จำหน้าลูกค้าได้ตั้งแต่วันแรกค่ะ!!! ทางผู้จัดการ ก็ขอโทษขอโพยพวกเราไปตามระเบียบ

ก็ไม่ได้ตั้งใจจะเขียนว่า โรงแรมนี้ไม่ดีนะคะ แค่เขาไม่ค่อยใส่ใจเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ให้สมกับเป็นโรงแรมห้าดาว เช่น รถจะเลี้ยวเข้าโรงแรมก็รอนานมาก น่าจะมี รปภ คอยโบกให้ และวันที่สามแม่บ้านไม่ได้มาทำความสะอาดห้องเรา ฯลฯ  แต่เท่าที่ดูๆ ท่าทางโรงแรมนี้จะเป็นที่นิยมของคนจีนค่ะ เพราะว่ามากับเป็นแบบครอบครัวเต็มโรงแรมไปหมด คึกครึ้น คึกคึก ตามสไตล์เขานั่นแหล่ะค่ะ แต่ถ้าหากเรากลับไปป่าตองอีก เราก็คงเลือกที่ที่ติดชายหาดและในตัวเมืองมากกว่านี้ ตัวอย่างโรงแรมที่เรามองๆ เมียงๆ ดูว่า ดูดี น่ามาพักครั้งต่อๆไปก็ได้แก่ โรงแรมป่าตองเมอริน  และโรงแรมฮอลิเดย์อินน์ รีสอร์ท สองรีสอร์ทนี้ด้านหนึ่งติดกับถนนหลัก ใกล้ๆ ฮูตเตอร์ และ ฮาร์ร็อค แต่อีกด้านหนึ่งติดกับถนนหน้าชายหาด หรือไม่ก็ลองโนโวเทลดูค่ะเขามีสองโรงแรมในบริเวณนี้ ได้แก่ โนโวเทลติดกับห้างจังซีลอน Novotel Phuket Vintage Park Resort กับโนโวเทลด้านขวาสุดของหาดป่าตอง Novotel Phuket Resort  บอกตรงๆ ว่าไม่ว่าNovotel อันไหนก็ยัง location ดีกว่า Sea Pearl Villas Resort แต่เรื่องห้อง หรือภายในนั้นไม่รู้จริงๆ ต้องรอให้พวกเราไปพักอีกที แต่เท่าที่ดูไม่มีโรงแรมไหนอยู่บนชายหาดนะคะ แค่ติดถนนหน้าหาดเท่านั้น
แต่ส่วนโรงแรมในฝันคนไทยก็คือ โรงแรมศรีพันวา ก็ไม่รู้ว่าทำไม รู้แต่ว่าดาราหรือเหล่าเซเล่บดังๆของไทย ต่างตบเท้าเข้าพักที่นี่ทุกครั้งที่มาภูเก็ตค่ะ แต่ราคาเกินเอื้อม แอบไปเช็คมาราคาถูกสุดคือคืนละ 12,xxx บาท ไม่ไหวจะเคลียร์บิลใบเครดิตแน่ๆ ถ้าเราไปพักที่นี่…

การเดินทางภายในภูเก็ต? บอกได้คำเดียวว่า แพงมาก! ค่ารถจากสนามบินราคามาตรฐาน แพงจนตกใจ (ถ้าเทียบกับกรุงเทพฯ)


รถรับจ้างจากสนามบินฯ มีให้เลือกค่ะ และเขามีรถแท็กซี่มิเตอร์ไว้บริการ เพียงเดินออกจากสนามบินแล้วเลี้ยวขวาจะเห็นป้าย Taxi Meter ก็ต่อคิวขึ้นรถได้เลย แต่ทางสนามบินคิดค่าบริการเพิ่ม 100 บาทจากมิเตอร์

สรุปนั่งแท็กซี่มาถึงโรงแรม มิเตอร์ขึ้น 615 รวมกับค่า สนามบิน อีก 100 บาท ก็ตก 715 บาท ถูกกว่าแบบเหมานิดหน่อย และก็ถูกกว่ารถโรงแรมที่เขาคิดเที่ยวละ 1200 บาท ระยะทางจากสนามบินไปป่าตองไกลมาก แถมรถติดด้วย ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง

แต่เราโชคดีได้พี่คนขับแท็กซี่นิสัยดีมาก เลยเก็บนามบัตรเบอร์โทรฯ และได้ใช้บริการพี่เขาตลอดทริป (ก็เขาคิดถูกกว่า รถประเภทอื่นๆ และก็ไม่รีบ เป็นกันเอง ไม่กดดัน สบายๆ ดี) ทั้งพี่บ่าว และ คุณ Ana (น่าจะเป็นเพื่อนกัน) ถ้าสนใจก็ลองโทรดูนะคะ ถ้าเขาไม่เปลี่ยนเบอร์โทรฯ…

แต่รถรับจ้างทั่วไป รถให้เช่า มีจอดให้เลือกและสามารถถามราคาบริการได้ตลอดถนนหน้าหาดป่าตอง ส่วนใหญ่จะคิดเหมาเป็นชั่วโมง สนนราคาไล่ๆ กัน คือประมาณ 5ชม 2000 บาท หรือ 8ชม 2,500บาท รถธรรมดา แต่ถ้าเป็นรถตู้ก็เพิ่มอีก 500บาท ชั่วโมงที่เกินมาจากที่ตกลง คิดเพิ่มชั่วโมงละ 300 บาทค่ะ บอกได้คำเดียวว่า แพงมากๆ


ตุ๊กตุ๊ก ที่นี่ก็ไม่ใช่ย่อย ทำงานกันเป็นทีม ถามราคากี่คัน กี่คัน ก็บอกราคาเท่ากัน คราวนี้เราก็เลยต้องเลือกจาก หน้าตา และนิสัยการพูดของคนขับเป็นหลักค่ะ ก็ไหนๆ จะเสียเงินแล้วนี่ค่ะ แพง แพง แพง มากๆ อะไรก็ไม่รู้ นั่งแค่ไม่ถึงสิบนาทีคิดราคา 300 บาทตลอดเลย!


มอเตอร์ไซต์ให้เช่า? เช่าได้ก็ได้ เพราะ ถูกกว่าเสียเงินขึ้นตุ๊กตุ๊ก อีก แต่อย่างที่บอกว่าด้วยโรงแรมที่เราพัก คิดว่า ไม่ปลอดภัยในการขับขี่นัก จึงไม่ได้เช่ามอเตอร์ไซต์เลย แต่ในป่าตองมีร้านให้เช่ามอเตอร์ไซต์เยอะมาก สนนราคาให้เช่าเริ่มต้นวันละ 200 บาท

อาหารที่ภูเก็ต จะเด็ดดวงแค่ไหน ขอบอกว่าเหมาะกับนักชิมที่ลำไส้แข็งแรงสุดๆ เพราะมีให้เลือกหลากหลาย ที่ดังและขึ้นชื่อแบบดั้งเดิมก็ได้แก่ หมี่ฮกเกี้ยน หมูฮ้อง บ๊ะจ่าง ขนมจีบ ขนมจีน แต่เราไม่ได้ลองกินอะไรแบบนี้สักอย่าง ได้ลองทานอาหารในตัวเมืองป่าตองเป็นหลัก มีอาหารฝรั่งทั้ง Hooters และ HardRock (อยู่ติดกันเลย) หรืออาหารไทยก็มีร้านดังๆ หลายร้าน เช่นร้านเสวย และร้าน ป่าตองซีฟูด สำหรับเราร้านใหญ่ๆ จะเป็นซีฟู้ดไทยแต่รสชาดฝรั่ง ถ้ามีเวลาเดินดีๆ ทางด้านฝั่งตรงข้ามโรงแรมฮอลิเดย์ มีร้านอาหารให้เลือกมากมายเลยค่ะ

หรือไม่ก็ตรงทางไปแหลมพรมเทพ (ถนนหลัก) มีร้านอาหารเยอะแยะไปหมด แต่พวกเราเลือกไปลองร้านระย้า ไปฝากท้องมื้อกลางวันที่นั่น วันที่เราไปซิตี้ทัวร์ ร้านนี้เขาอยู่ในตัวเมืองภูเก็ต (ไกลจากป่าตอง) ก็ไม่ผิดหวังค่ะ ไว้อ่านต่อใน ภูเก็ตซิตี้ทัวร์

ส่วนสินค้าประจำจังหวัดไว้เป็นของฝากก็ได้แก่ ผ้าบาติก ไข่มุก และเม็ดมะม่วงหิมพานต์

ส่วนทริปนนี้ ทั้งหมด 4 คืน 4 วันในเดือนสิงหาคม 2557 ที่ภูเก็ต แอบเสียใจที่สภาพร่างกายไม่ค่อยเอื้ออำนวย เลยไม่ค่อยได้ไปเที่ยวเกาะเท่าที่ควร แต่เราก็จัดทริปง่ายๆ พวกเราดังนี้ค่ะ

วันศุกร์ที่ 8 เดินทางถึงภูเก็ตและเข้าเช็คอินโรงแรม ประมาณ 6 โมงเย็น ประมาณทุ่มตรงพวกเราก็ออกไปเดินเล่นและทานอาหารที่ Hooters ค่ะ ก็เขาเพิ่งเปิดใหม่ เราก็เห่อของใหม่นี่ค่ะ คืนนี้มาทำความรู้จักกับป่าตองกันค่ะ อ่านต่อ…
วันเสาร์ที่ 9 วันนี้ตั้งหลัก ไม่รู้จะทำอะไรก่อนหลัง เลยโทรหา พี่บ่าว เจ้าของเท็กซี่ที่มาส่งเราที่โรงแรมเมื่อวาน ให้พาเที่ยวรอบเกาะ อ่านต่อทริปนี้ ที่ ภูเก็ตซิตี้ทัวร์ ที่พวกเราไปทานอาหารที่ร้านระย้า แว่ะวัดฉลอง วัดคู่บ้านคู่เมืองที่มีชื่อเสียงของภูเก็ต และวัดพระใหญ่ จากนั้นไปดูพระอาทิตย์ตกดินที่แหลมพรมเทพ ที่ที่เขาว่าเป็นจุดชมวิวและพระอาทิตย์ตกที่สวยที่สุดในประเทศ ก่อนที่เราจะจบทัวร์ด้วยไนท์มาเก็ต ตลาดนัดเย็นวันเสาร์-อาทิตย์เท่านั้น อ่านต่อ
วันอาทิตย์ 10 วันนี้แปลกแนวเราไปตกปลากันค่ะ เป็นเรือใหญ่ เรือประมง ทริปนี้รวมจอดที่เกาะราชัยใหญ่ น้ำใสสะอาด จุดดำน้ำที่เป็นที่นิยม แถมพวกเราลงเล่นน้ำได้ด้วย อ่านรายละเอียดทริปวันนี้เต็มๆ วัน เพราะเราไปกันสองคนแต่ได้ปลาตัวเดียว!  อ่านต่อ…
วันจันทร์ 11 ว่ากันว่า มาเที่ยวภูเก็ต ได้ทั้งทะเลและภูเขา วันนี้เราเลยเล่นสลิงเหินเวลาที่ Flying Hanuman (Zipline) สนุกแต่แพงมาก! อ่านต่อ…
วันอังคาร์ 12 เดินทางกลับโดยสวัสดิภาพ 🙂

แต่ภูเก็ตไม่ได้มีแค่นี้นะคะ ยังมีที่เที่ยวหรือทริปเด็ดๆอีกมากมาย เช่น ก็พอถึงสนามบิน ก็ลองหยิบใบปลิวมาเลือกกันก่อนได้ค่ะ

ทัวร์ส่วนใหญ่ จองล่วงหน้าแค่วันเดียว ที่เราอยากไปแต่ไม่ได้ไปในทริปนี้ก็เช่น ทัวร์เกาะเจมส์บอนด์ ทัวร์เกาะพีพี และทัวร์เกาะต่างๆ นอกจากนั้น ภูเก็ตยังมีโชว์ตระการตาและเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวได้แก่ ภูเก็ตแฟนตาซีโชว์ โชว์สยามนิรมิต และโชว์สาวประเภทสอง ไซมอนด์คาบาเร่ท์ อีกด้วย

สรุปค่าใช้จ่ายเบื้องต้น (ไม่รวมค่าอาหารและค่าช้อปปิ้ง)

ตั๋วเครื่องบิน Air Asia ไปกลับ กรุงเทพ-ภูเก็ต  7,216 บาท $240
โรงแรม Sea Pearl Villas Resort – 4 nights included Breakfast (4,416 baht per night) 17,664บาท (2ท่าน) $147
Phuket city Tour ทัวร์เมืองภูเก็ต 1800 บาท $90
Fishing Trip ทริปตกปลา 1700 บาท $57
Flying Hanuman (Zipline) 2800 บาท $93
แท็กซี่ ไป-กลับ สนามบิน 1600 บาท (2ท่าน) $53
ตุ๊กตุ๊ก ป่าตอง กลับ โรงแรม (ทุกคืน คืนละ 250บาท) 1000 บาท (2ท่าน) $33
รวมค่าใช้จ่ายเบื้องต้น สำหรับทริปนี้ต่อท่าน 23,648 บาท $788

***Exchange rate 1USD: 30Thai Baht

About Jam

I'm Jam, the blogger, and illustrator of this website. I live in Bangkok, Thailand and Louisiana, USA when I'm not travelling.

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *