ตะลุยฮ่องกง ไม่ง้อทัวร์ วันแรก เบาๆในจิมซาจุ่ย

(English?)
เจริญตาเจริญใจ ตั้งแต่เหยียบย่างเข้าสนามบินฮ่องกง ดูก็รู้ในบัดดล ว่านี่คือสวรรค์ของเราชัดๆ นี่ขนาดสนามบินยังหรูหรากว้างใหญ่ขนาดนี้ อย่างอื่นคงไม่ต้องพูดถึง!!!

วันแรก และครั้งแรกในการมาเที่ยวเองที่ฮ่องกง เรามาถึงสนามบินฮ่องกงเวลาประมาณบ่ายสองโมง สนามบินฮ่องกงมีขนาดใหญ่ มีรถไฟฟ้าให้บริการระหว่างตัวอาคาร เรียกว่าไม่ได้ใหญ่อย่างเดียว แต่ใหญ่อย่างมีคุณภาพค่ะ เพราะมีป้ายบอกทางชัดเจน ไม่สับสน อีกทั้งด่านตรวจคนเข้าเมือง (วันนี้) ไม่วุ่นวายอย่างที่คิด ถือพาสปอร์ตกับบัตรขาเข้าของฮ่องกง ก็ผ่านด่านฯ ได้อย่างง่ายดาย

การเดินทางไปโรงแรม B.P International โรงแรมที่พวกเราไม่ค่อยมีเวลาเลือก แต่ก็ไม่ได้ทำให้ผิดหวังมากนัก โรงแรมนี้อยู่ในพื้นที่ จิมซาจุ่ย (Tsim Sha Tsui) วันนี้สัมภาระเยอะมาก ไม่สะดวกที่พวกเราจะทดลองขึ้น รถไฟฟ้าสาย Airport Express เราเลยเสียเงินเพิ่มนิดหน่อย ด้วยการนั่งแท็กซี่จากสนามบินฯ ไปยังโรงแรมเลยค่ะ

แท็กซี่ที่นี่แบ่งออกเป็น 3 สี 3 สาย เดินงงๆ ไปถามเจ้าหน้าที่ เขาให้เราขึ้นสีแดง เพื่อไป Tsim Sha Tsui (จิม ซา จุ่ย) ใช้เวลานั่งแท็กซี่ ขึ้นทางด่วน และปราศจากรถติด ประมาณ 30 นาที ก็ถึงโรงแรม B.P. International โดยค่าโดยสารแท็กซี่ $249.50HK หรือ ประมาณ 1,035 บาท โดยรวมค่าทางด่วนแล้ว แพงเหมือนกันนะเนี่ย!!!

ถึงโรงแรม B.P. International ซึ่งตั้งอยู่ติดถนน และท่าทางวันนี้พนักงานในโรงแรมจะยุ่งมาก เพราะไม่มีเจ้าหน้าที่มาช่วยเปิดประตู หรือ ยกกระเป๋าเลยค่ะ โรงแรมนี้ยังเป็นศูนย์ลูกเสือของฮ่องกงอีกด้วย ทำให้คนเข้าออก พลุกพล่านตลอดเวลา
การเช็คอินเข้าอยู่โรงแรม ทางโรงแรมขอเงินมัดจำ $500HK ด้วย และจะคืนในวันที่เช็คเอ้าท์ค่ะ
ได้ยลโฉมห้องพัก ขนาดกระทัดรัด อดคิดไม่ได้ ว่านี่เหรอห้องพักคืนละ สามพันกว่าบาท??? เล็กไปหน่อยนึง แต่ว่า ความสะอาดและทำเลที่ตั้งของโรงแรม ยังได้ใจเราอยู่บ้าง

ได้ยืดแข้งยืดขา และจัดของเข้าที่เข้าทางในห้องพัก เราก็จรลีออกไปผจญภัยในโลกกว้างของเกาะฮ่องกง ในตัวเมือง จิมซาจุ่ยกันที่เวลาประมาณ 4 โมงเย็น (เวลาที่ฮ่องกง เร็วกว่าเวลาในประเทศไทย 1 ชั่วโมง) เดินลงมาที่เค้าน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ของโรงแรม เจอหญิงสูงวัยท่านหนึ่ง ที่ก้มหน้าก้มตาไม่ยินดีหรือยินร้าย แม้ว่าพวกเราจะยืนขอคำแนะนำในการเดินทางเข้าไปในตัวเมือง จิมซาจุ่ย แต่ก็ยังโชคดี ที่เขามีแผนที่ฟรีแจก แอบผิดหวังว่าเจ้าหน้าที่โรงแรมบริการไม่ดีเลย หรือคุณเธอมานั่งผิดโต๊ะหรือเปล่าค่ะ? ไม่ค่อยจะเต็มใจประชาสัมพันธ์เหมือนชื่อโต๊ะ…


ข้ามถนนเดินตามป้ายมาอย่างไม่แน่ใจ จนกระทั่งเจอป้ายรถไฟฟ้าสถานีออสติน (Austin) ที่จะไป จิมซาจุ่ยก็แอบดีใจเพราะไม่ไกลจากโรงแรมเท่าไร แต่จริงๆ สถานีนี้ เดินออกมาจากโรงแรม แล้วเลี้ยวซ้าย ไม่ต้องข้ามถนนก็เจอค่ะ

วันนี้ ขึ้นแค่สถานีเดียวก็ลงแล้วค่ะ ค่าโดยสารคนละ $9HK หรือ 37 บาท เลือกทางออกไป Avenue of Stars ก่อนเลยค่ะ เพราะว่า เวลาเย็นๆ แบบนี้เหมาะสำหรับการเดินชมวิว บริเวณอ่าววิคตอเรียมากๆ

(1) Avenue of Stars (ไม่มีค่าเข้าชม) ถนนเส้นทางแห่งดวงดาราที่สร้างขึ้นเพื่อแสดงถึงความสำเร็จของวงการธุรกิจภาพยนต์ฮ่องกง เป็นถนนที่เลียบชายอ่าววิคทอเรียฮาร์เบอร์ มีนักท่องเที่ยวมาเดินชมวิว และถ่ายรูปตลอดเส้นทาง ที่เป็นที่สนใจคือ รอยมือประทับบนทางเท้า พร้อมลายเซ็นต์ของเหล่าดาราชื่อดัง โดยเฉพาะ เฉินหลง (Jackie Chan) ซึ่งจะอยู่บริเวณเกือบใกล้ๆ หุ่นปั้นบรูซลี แต่พอเจอแล้ว หาจังหวะถ่ายรูปยากมากๆ เพราะว่า Jackie Chan มีชื่อเสียงและเป็นที่ชื่นชอบ ทุกคนต้องการประทับรอยมแนบลงทับรอยมือ เฉินหลง กันทั้งนั้น

ก็เรียกได้ว่า แทบจะมีแค่เฉินหลงนี่แหล่ะที่เรารู้จัก ส่วนคนอื่น เขามีแต่ชื่อภาษาจีน กับ ภาษาอังกฤษ ซึ่งเราก็ไม่แน่ใจว่าเป็นใคร เขาน่าจะมีรูปภาพประกอบนะเนี่ย???..

ยังมีรูปปั้นจำลองกองถ่าย หรือ รูปปั้นบรูซลี ที่เด่นตง่านอยู่ริมหัวมุมด้านในของ Avenue of Stars

ยิ่งเจ้าหมูแฮปปี้ตัวนี้ ที่ตั้งไว้ให้นักท่องเที่ยวได้สนุกสนานกับการถ่ายภาพเป็นที่ระลึก

ที่นี่มีร้านขายปลาหมึกแห้งย่าง (ตัวละ $30HK หรือ 165 บาท) ย่างขายกันสดๆ แต่ว่า ต่อแถวกันยาวมาก ทำให้เราอดชิมเพราะทนรอต่อคิวไม่ไหวค่ะ
ตลอดปลายแนวของ Avenue of Stars ยังมีร้านรับถ่ายรูป อีกด้วย เห็นรูปถ่ายเป็ดยักษ์ก็อดเสียดายที่มาไม่ทัน เพราะเขาเพิ่งย้าย เจ้าเป็ดยักษ์ไปอเมริกาเพียงเดือนเดียวก่อนที่เราจะได้มาฮ่องกง…
เดินเล่นๆ ได้เวลาเย็นๆ ก็เริ่มหิว จากแผนที่ที่ได้มาจากเจ้าหน้าที่ไม่เต็มใจประชาสัมพันธ์ มีดีแค่อย่างเดียว คือมีรูปร้านอาหารดังๆ ในย่าน จิมซาจุ่ย และหนึ่งในร้านที่พวกเราเลือกที่จะรับประทานคือ “(2) Ned Relly’s Last Stand” คืนแรก ของปรับภาวะสมดุลของลำไส้ด้วยอาหารอินเตอร์ฯก่อนค่ะ

วันนี้ขอสั่งแค่ ฟิชแอนด์ชิพ และเบอร์เกอร์ก่อนค่ะ ขอบอกว่า เบอร์เกอร์เขาอร่อยมากๆๆๆ

เราขอนั่งจิบเครื่องดื่ม เพื่อรอเวลาประมาณ ทุ่มสี่สิบห้านาที และเดินย้อนกลับไปทาง Avenue of Stars เพื่อไปชม (3) Symphony of Light โดยพวกเราเลือกไปชมกันที่หอนาฬิกา Clock Tower (ใกล้ท่าเทียบเรือ Star Ferry) ที่นี่เขาว่า เป็นจุดที่สามารถเห็นตึกบนเกาะฮ่องกงได้อย่างครบถ้วน และเป็นอีกจุดหนึ่งที่สามารถชมวิวได้สวยงามไม่แพ้บริเวณ Avenue of Stars

Symphony of Light อันนี้ก็ชมฟรีค่ะ จริงๆ เราคิดว่ามันคือการร่วมมือเปิดไฟตึกพร้อมๆ กันทั้งอ่าว โดยมีตึกเข้าร่วมการแสดงถึง 44 ตึก มีแสงสี และเสียงดนตรีประกอบกันไปบริเวณรอบอ่าววิคตอเรีย เขาว่านี่เป็นการแสดง แสง สี เสียงที่ใหญ่ที่สุดในโลก!!!

การแสดงนี้ จัดแสดงทุกวัน โดยเริ่มเวลา 2 ทุ่มตรง และใช้เวลาแสดงประมาณ 15-20 นาที พวกเรามาก่อนการแสดงนิดหน่อย แต่ก็ถือว่าช้าไป เพราะว่ามีนักท่องเที่ยวมาจับจองนั่งชมด้านหน้าเต็มไปหมด…

เราก็ชอบนะคะ มีโอกาสไปเห็นสักครั้งก็ถือว่า ตระการตาดี…

จบการแสดง Symphony of Light ก็เหลือเวลาเดินชมห้างใหญ่ๆ หลักๆ ในเขต จิมซาจุ่ยไม่มากนัก เพราะร้านค้าส่วนใหญ่เริ่มปิดกันประมาณสี่ทุ่ม แต่เราก็ยังได้มีโอกาสจับจ่ายซื้อของแบบอดไม่ได้ รอไม่ไหว ในคืนแรก

ก็นี่มันแหล่งรวมสินค้าแบรนด์เนมชื่อดังๆ แถมราคาปลอดภาษีอีกด้วย!!!

ห้างสรรพสินค้าดังๆ หรูๆ จนเราไม่กล้าเข้าในบริเวณนี้ก็ได้แก่ 1881 เฮอริเทจ (ทำได้แต่ถ่ายรูป เพราะว่ามีมุมสวยๆ ดีค่ะ) ส่วน ฮาร์เบอร์ซิตี้ ก็ประหนึ่งคล้ายๆกับ พารากอนของเราค่ะ จะมีก็ ห้างมิรามาร์ Miramar Shopping Center ที่ดูจะเหมาะกับเราหน่อย เพราะยังมีสินค้าราคากลางๆบ้าง แต่ขอบอกว่า เราไม่มีเวลาเดินชมห้างฯ ดังกล่าวเลย

เดินช้อปเล่นๆ ก็หาของทานเล่นยากเหมือนกัน โดยเฉพาะที่ฮ่องกงมีเพียงแค่เจ้า โมบายซอฟตี้ (Mobile Softee) รถขายไอศกรีมที่จอดขายอยู่ทั่วไปตามจุดท่องเที่ยวที่มีคนมากๆ ในหนังสือบอกว่า เป็นรถไอศกรีมตั้งแต่ปี พ.ศ 2513 หรือ ค.ศ 1970 แล้วค่ะ ราคาโคนละ $HK9 หรือประมาณ 37 บาท ก็หวานดี แต่เหมือนครีมนุ่มๆ เย็นๆ

เดินลดเลี้ยว แว่ะซื้อของตามร้าน จนตัดตรงมาถนนนาธาน (Nathan) ซึ่งเราสามารถเดินทางกลับโรงแรมได้ สำหรับวันนี้ เรียกว่า แทบจะไม่ได้ใช้เงิน อะไรมาก มีเพียงแค่ค่าอาหาร กับค่าจับจ่ายซื้อของ ซึ่งส่วนนี้นักท่องเที่ยวสามารถควบคุมได้ตามความต้องการของแต่ละคนค่ะ…

แต่อย่าลืมช็อปเพลิน เพราะจะลำบากตอนแพ็คกระเป๋า และแบกกลับบ้านเหมือนเรา…

อ่าน ทริปฮ่องกงนี้ ฉบับรวดรัด 4วัน3คืน หรืออ่านต่อ วันที่ 2 ตะลุยดีสนีย์ฮ่องกง พร้อมนวด กิน ดื่ม ช้อปที่ตลาดกลางคืนแบบไม่ง้อทัวร์  หรือ อ่านต่อ วันที่สาม ตะลุยฮ่องกง ไม่ง้อทัวร์แบบฉลุย นั่งกระเช้านองปิง ไหว้พระใหญ่ทินถ่าน

About Jam

I'm Jam, the blogger, and illustrator of this website. I live in Bangkok, Thailand and Louisiana, USA when I'm not travelling.

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *