ทัวร์เมืองกาฐมาณฑุ เนปาล (Must Go)

Kathmandu City Tour – English Version

นมัสเต เนปาล!  หรือ สวัสดีเนปาล!!!

คงเป็นภาษาเนปาลคำเดียวที่เราพูดได้สำหรับทริปนี้ที่เมืองกาฐมาณฑุ ประเทศเนปาลค่ะ   วันนี้เป็นวันแรกที่เราจะได้เริ่มเที่ยวเต็มวันในสถานที่ที่สำคัญและเป็นมรดกโลกของเมืองกาฐมาณฑุ ทั้ง 4 ที่เลยค่ะ

ก่อนอื่นมาดูแผนที่ทัวร์สำหรับวันนี้กันก่อน  (คลิกที่ภาพเพื่อดูภาพขนาดใหญ่) เรียงลำดับตามหมายเลขที่ไกด์ท้องถิ่นจะพาเราไปเที่ยว โดยเราเริ่มทัวร์กันที่ 9 โมงเช้า แบบชิวชิว ไม่ได้รีบร้อน อากาศก็เย็นสบายๆ มีแค่เสื้อกันหนาวตัวเดียวเท่านั้น…

ที่ (1) วัดสถูปสวะยัมภูมนาถ หรือ วัดลิงค่ะ (Monkey Temple or Swayambunath Stupa ควรจะจดภาษาอังกฤษไปด้วยนะคะ เพราะว่าไปถึงที่นั่นแล้วสับสนมาก และไกด์เขาก็อ่านได้แต่ภาษาอังกฤษ แต่เวลาเขาออกเสียงจะไม่ค่อยตรงกับภาษาอังกฤษ หรือ ภาษาไทย ใช้วิธีชี้ที่ชื่อภาษาอังกฤษให้ดูเพื่อความแน่ใจดีกว่าค่ะ) ค่าเข้าชมที่นี่ท่านละ 200รูปี (~55 บาท)ค่ะ วัดสถูปฯ ตั้งอยู่บนเนินเขาเล็กๆ ห่างจากกรุงกาฐมาณฑุไปทางทิศตะวันตก 3 กิโลเมตร โดยสูงประมาณ 300 ขั้นบันได (ไกด์บอกมาอีกทีนะคะ) เมื่อขึ้นไปข้างบนแล้วทำให้เห็นทิวทัศน์รอบๆ อย่างสวยงาม

ส่วนตรงฐานของสถูปซึ่งมีดวงตาเห็นธรรม หรือ Wisdom Eyes ของพระพุทธเจ้าอยู่โดยรอบทั้ง 4 ด้าน สถูปแห่งนี้เป็นสถูปที่เก่าแก่ที่สุดของเนปาล และที่วัดแห่งนี้ ยังเป็นสถานที่ที่มีการผสมผสานระหว่างศาสนาพุทธกับฮินดู เพราะมีเจดีย์ที่เป็นเจดีย์ของชาวพุทธ (Buddhist Chaityas) กล่าวกันว่าน่าจะมีอายุถึง 2,000 ปีเลยทีเดียว

และที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ เหล่าฝูงลิง (เขาถึงได้เรียกวัดนี้ว่า วัดลิง) ที่นี่ลิงเดินกันเต็มวัดเลยทีเดียว เป็นลิงที่อาศัยตามธรรมชาติอยู่รอบๆ วัด และไม่ทำอันตรายต่อนักท่องเที่ยว นอกจากนี้ ยังมีร้านจำหน่ายสินค้า ของประดิษฐ์พื้นเมือง จำหน่ายแก่นักท่องเที่ยวอีกด้วย (ที่เราแอบเสียดายคืองานแกะสลักหิน เพราะเขารับทำตามสั่ง (make to order) แต่คิดว่า หาซื้อที่อื่นได้ เลยอดค่ะ เพราะว่า เท่าที่ไปมา มีที่นี่ที่เดียวที่รับทำตามสั่ง และรอไม่นานด้วย)


ต่อกันที่ (2)เมืองปะฏันหรือเมืองปาทาน (Patan) ค่าเข้าชมท่านละ 500 รูปี ที่นี่เป็นเมืองโบราณที่ตั้งอยู่เหนือแม่น้ำพัคมาตี อยู่ห่างจากกรุงกาฐมาณฑุไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ 5 กิโลเมตร สร้างในสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช

ปะฏันได้ชื่อว่าเป็นเมืองคู่แฝดของกรุงกาฐมาณฑุได้รับการขนานนามว่าเมืองแห่งความงาม (City of Beauty) เป็นเมืองที่รู้จักกันในนามของเมืองแห่งศิลปะอีกด้วย (City of Fine Arts) โดยเฉพาะชื่อเสียงทางศูนย์กลางงานหัตถศิลป์ของชาวทิเบตอพยพ และมีชื่อเสียงในเรื่องพระพุทธรูป นับเป็นนครโบราณที่ยังมีชีวิต ภายในเมืองเต็มไปด้วยวัดทางศาสนาฮินดูและสิ่งปลูกสร้างในพุทธศาสนา สืบเนื่องมาจากความหลากหลายของวัฒนธรรมในยุคกลางทำให้ทั้งศาสนาฮินดูและศาสนาพุทธเฟื่องฟูในแถบนี้

และที่เมืองโบราณแห่งนี้เคยเป็นพระราชวังมาก่อน ไกด์บอกเราว่า อย่างหอที่เห็น เป็นหอที่ใช้สำหรับตัดความเป็นชายของเหล่าขัณธีในวัง บนหอแห่งนี้ยังมีภาพแกะสลักจากไม้ โดยแต่ละภาพเป็นภาพการร่วมเพศในท่าต่างๆ (ไม่ซ้ำกัน!) โดยไกด์บอกว่า เป็นภาพที่นำมาจากคัมภีร์กามสูตร หรือกามาสุตรา เป็นคัมภีร์อินเดียสมัยโบราณว่าด้วยเพศศึกษาหรือพฤติกรรมทางเพศของมนุษย์ ถ้าดูกันในเชิงประวัติศาสตร์จะเห็นว่าไม้ที่แกะสลักมีอายุหลายร้อยปีมาก และลวดลายที่แกะสลักก็สวยงามสมกับเป็นเมืองแห่งศิลปะจริงๆค่ะ

และด้วยเหตุนี้แหล่ะค่ะ ทำให้เราเข้าใจว่า ทำไมของที่ขายอยู่ทั่วไปในเนปาลจะมีงานแกะสลักกามสูตรอยู่เต็มไปหมด… (แอบเซ็นเซอร์ไว้นิดนึงสำหรับเวอร์ชั่นภาษาไทย)


และที่ (3) วัดปศุปฏินาถ (Pashupatinath Temple – Temple of Living Beings) ค่าเข้าชมคนละ 200 รูปีค่ะ วัดแห่งนี้ตั้งอยู่ห่างจากกรุงกาฐมาณฑุไปทางทิศตะวันออกประมาณ 5 กิโลเมตร ตัววัดสร้างขึ้นมาในสมัยกษัตริย์แห่งราชวงศ์มลละ เพื่อถวายแด่พระศิวะในภาคขององค์ปศุปฏินาถ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำพัคมาตี (Bagmati River) ซึ่งแม่น้ำสายนี้จะไหลไปรวมกับแม่น้ำคงคา ทำให้มีความเชื่อว่าแม่น้ำแห่งนี้มีความศักดิ์สิทธิ์เปรียบเทียบเสมือนแม่น้ำคงคาแห่งเมืองพาราณสี ประเทศอินเดีย นั่นเอง

อีกทั้งที่นี่ยังเป็นศูนย์กลางของการแสวงบุญประจำปีของชาวฮินดู “มหาศิวะราตรี” ชาวฮินดูจะทำพิธีฌาปนกิจศพที่แม่น้ำแห่งนี้ โดยจะเห็นควันไฟที่ใช้ในการเผาศพตลอดเวลาที่มาเยือน ณ วัดแห่งนี้


อย่างที่ทราบว่าวัดนี้เป็นวัดของชาวฮินดู และจะอนุญาติให้เข้าฮินดูเข้าไปในบริเวณวัดได้เท่านั้น โดยจะมีทางเข้าสำหรับชาวฮินดูแยกเฉพาะกับนักท่องเที่ยว แต่พวกเรานักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมตัววัดและดูกิจกรรมที่มีขึ้นภายในอาณาเขตของวัดได้ชัดเจน (เพียงจะอยู่ฝั่งตรงกันข้ามโดยมีแม่น้ำกั้นเท่านั้น)

ที่วัดแห่งนี้มีลิงเยอะเช่นกันนะคะ นอกจากนั้นยังมีโยคีหลายท่านเหมือนกัน ถ่ายรูปได้ แต่ต้องเสียเงินค่ะ  อย่างภาพนี้เขาก็ขอ คนละ 50 รูปีค่ะ ไกด์บอกว่า ไม่ได้เป็นอาชีพ แต่เนื่องจากโยคีก็ต้องกินต้องใช้ เขาจึงขอให้เราทำบุญทำทานบ้าง…

สุดท้ายสำหรับวันนี้ (4) โพธินาถ หรือพุทธนาถ (Boudhanath)

เจดีย์แห่งนี้ เป็น เจดีย์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศเนปาลค่ะ ค่าเข้าชมที่นี่ท่านละ 200 รูปีค่ะ เป็นเจดีย์ที่ใหญ่จริงๆ และมีธงสีสันต่างๆ เรียงรายเต็มไปหมด แม้ว่าจะมีพระสวดมนต์บนฐานเจดีย์แต่ไกด์ก็บอกว่าเราสามารถขึ้นไปเดินข้างบนได้ บนเจดีย์มีดวงตาเห็นธรรมของพระพุทธเจ้า (Wisdom Eyes) ทั้งสี่ทิศเช่นกัน

บริเวณรอบๆ ของเจดีย์ มีร้านขายของที่ระลึกเช่นกัน คล้ายๆ กับร้านที่ ธาเมล (แต่ราคาแพงกว่ามาก)…
รอบๆ วัดทุกวัดที่เราไปเยี่ยมชมวันนี้ ถ้าเป็นประเทศไทยก็คงจะเป็น ระฆังให้เดินเคาะกันเหง่งหง่าง เพื่อความโชคดี แต่ที่ประเทศเนปาลเป็นวงล้อที่เขาใช้หมุนสวดมนต์ (A prayer wheel) ไกด์แนะนำให้พวกเราไปหมุนๆ เพื่อความโชคดีเช่นกัน ร้านค้าหลายร้านในเนปาล ทำวงล้อแบบนี้ขายด้วยค่ะ หลายขนาด และหลายแบบ สามารถหาซื้อกลับบ้านเป็นของที่ระลึกค่ะ

จบทัวร์แบบเต็มวันของพวกเราวันนี้ที่เวลา บ่ายสามโมงเย็นค่ะ เป็นทัวร์ที่ไม่เร่งรีบ แต่เราไม่ได้หยุดทานอาหารกลางวัน เพราะว่าไม่หิว ประกอบกับทานอาหารเช้ามาจากโรงแรมซะเต็มที่…
สนนราคาค่าทัวร์วันนี้ คือ $55 (1,650 บาท ต่อ สองท่าน) พร้อมไกด์ท้องถิ่น และรถและคนขับ ตลอดวัน
ค่าเข้าชมตลอดวันนี้อีกคนละ 1,100 รูปี (หรือประมาณคนละ 405 บาท)
ค่าทิปไกด์ ($10) กับ คนขับรถ ($5)
รวมแล้วค่าใช้จ่ายเน็ตๆ ไม่รวมค่าช็อปปิ้ง วันนี้ อยู่ที่คนละ 1,455 บาท หรือประมาณ $49 ค่ะ

และตอนเย็นยังมีเวลาเหลือไปช็อปปิ้งที่ธาเมล (Thamel) กันแบบสบายๆ ค่ะ

อ่านต่อทริปต่อละทริปของเราที่เนปาลอย่างเข้มข้นได้ที่…

1. The Must Know about Kathmandu, Nepal
รีวิวเมืองกาฐมาณฑุ ประเทศเนปาล เรื่องต้องรู้ก่อนเตรียมตัวเดินทาง และระหว่างเดินทาง
2. ครึ่งเช้า เป็นการบินชมน่านฟ้าเนปาลตลอดแนวเทือกเขาหิมาลัยค่ะ ต่อครึ่งบ่าย ด้วยทัวร์ ที่ขอแต่คนขับรถ (ประหยัดเงินค่าไกด์) โดยพาพวกเราไปที่ DAKSHINKALI ที่นี่ไกลจากเมืองไปประมาณ 40-45 นาที เป็นวัดฮินดู แต่ตอนขากลับได้แว่ะ วัดพุทธแห่งหนึ่งก็น่าสนใจดีค่ะ
— เร็วๆ นี้ค่ะ —
3. Full day tour to Bhaktapur, the UNESCO WORLD (MUST SEE) and The world’s tallest Shiva god statue, visit NAGARKOT city for mountain view.
—coming soon—

See all our trips in Thailand at https://www.somethingjam.com/all-trips
And the other trip outside Thailand at https://www.somethingjam.com/thai-neighborhood-trips

About Jam

I'm Jam, the blogger, and illustrator of this website. I live in Bangkok, Thailand and Louisiana, USA when I'm not travelling.

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *