2557 ปีนี้ มีเรื่องให้จดจำเยอะเลย…


ต้นๆ ปี2557 ค่อนข้างเงียบเหงา ตั้งแต่การฉลองงานปีใหม่ของปีนี้ เพราะว่ามีปัญหาการเมืองต่อเนื่องมาจากปลายปีก่อน2556 โดยเฉพาะการประกาศ Bangkok Shutdown ในต้นๆ เดือนมกราคม ทำให้โดยรวมๆ แล้ว ค่อนสับสน ขนาดไปทำงานยังต้องคอยเอียงหูฟังประกาศว่า ตอนนี้ ถนนเส้นไหน ปิดบ้าง หรือว่า วันไหน โดนปิดถนนแล้วไม่ต้องไปทำงาน ดังนั้นเรื่องการท่องเที่ยวในช่วงต้นๆ ปีจะเห็นได้ชัดว่าซบวืดลงไป นักท่องเที่ยวน้อยลง แต่พอการเมืองยืดเยื้อ จนนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ค่อนข้างเข้าใจสถานการณ์การเมืองของไทยว่าประท้วงกันยังไงก็ปลอดภัย บางส่วนก็กลับมาท่องเที่ยวกันปกติ นักท่องเที่ยวบางคนยังแอบทำทัวร์ไปถ่ายรูปกับผู้ประท้วงซะด้วยซ้ำ…
แต่เราก็หนีไปเรียนดำน้ำ (open water)โดยเป็นสถาบันเดียวกับท่าน ค่าเรียนนี่เรียกว่าแพงมาก ตอนเรียนไม่คิดว่าจะเรียนได้ เพราะว่าว่ายน้ำไม่เป็น แต่ก็สอบผ่านแบบทุลักทุเล โดยคอร์สนึงจะรวมไปถึงข้อมูลทางทฤษฎี เกือบวันครึ่ง ส่วนอีกครึ่งวันจะเป็นการฝึกปฏิบัติในสระว่ายน้ำ แล้วก็มีทดสอบอีกสองวัน (4dives) ในทะเลจริงที่พัทยา ไอ้ท่าทดสอบว่า goggles หลุด แล้วต้องใส่กลับใหม่ นี่ยากสุด ขอบอก!!!


ปีนี้ได้เพื่อนใหม่ๆ มาร่วมทริปด้วยตลอด ดีใจมาก โดยเฉพาะคู่นี้ ทิมัวร์ กับ เอซี่ ที่หล่อสวย ทนอึด เรียกว่าไปไหน ไปกัน โดย ทริปแรกของปีที่วันหยุดมาฆบูชา ตรงกับวันวาเลนไทน์ และตรงกับวัน ศุกร์พอดี ในนัยสำคัญคือ พระจันทร์เต็มดวงตรงกับวันหยุดยาว!!! ถ้าไม่ใช่สาวออฟฟิศที่ลาพักร้อนได้ปีละ 10 วันอย่างเราก็คงไม่ตื่นเต้น แต่เราดีใจมาก นอกจากไม่ต้องลาพักร้อนแล้ว ช่างเป็นวันประจวบพอเหมาะพอดีที่เราจะไป ฟูลมูนปาร์ตี้!!!
ยิ่งกระแสการเมืองในเมืองกรุงฯ ยังคงเร่าร้อน มันเหมาะกับการออกไปนอกกรุงฯ ขนาดทริปที่เราซื้อที่สมุย ยังมีชื่อโปรโมชั่นว่า “หนีกรุง” โดยแพคเกจนี้รวมที่พักที่โรงแรม ดาราสมุย พร้อมทัวร์รอบเมืองบนเกาะสมุย แล้วพวกเราไปซื้อทัวร์หมู่เกาะอ่างทอง กับ ตั๋วเรือไปงานฟูลมูนปาร์ตี้กับคุณบี(ผู้ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับสมุยได้ดีมากๆ)

แต่หลายท่านอาจจะยังไม่รู้ว่า คนงานที่สมุยจำนวนเกินกว่าครึ่งเป็นชาวต่างชาติ และเป็นครั้งแรกที่เราไปทัวร์ แล้วผู้จัดการทัวร์ (Grand sea discovery) ตะโกนใส่พวกเราว่า อย่างี่เง่า คือแค่พวกเราไม่ได้ใส่ชื่อจริง กับ อีเมล์ตอนเช็คชื่อ ต้องด่ากันขนาดนี้ด้วยเหรอ??? ไม่ได้อาฆาตพยาบาทนะ แต่เพื่อชื่อเสียงการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ต้องขอเน้นๆว่า คนนั้น ไม่ใช่คนไทยค่ะ…(ปล.เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับ คดีที่เกาะเต่านะ)


เขาคิชกูฎ ที่นี่ขอพรได้ปีละครั้ง…และจะสมหวังเสมอ จริงหรือไม่?
ไม่ลองไม่รู้ ไปมาสองครั้งแล้ว พรที่เราขอเป็นจริงทั้งสองประการ แต่จะว่าไป พรที่เราขอไปก็สมเหตุสมผลทุกครั้ง ครั้งนี้เป็นครั้งที่สามของเรา (ครั้งที่สองของท่าน) ตอนแรก นัดรวมกลุ่มกัน คิดว่า จะมากันหลายคน ไปๆ มาๆ คนนี้ไม่ว่าง คนนั้นติดงาน เลยเหลือกันแค่สี่คน เรา ท่าน ทิมัวร์ และ เอซี่ ค่ะ

คนไทยมาที่นี่เพื่อแสวงบุญด้วยการปีนเขาขึ้นไปกราบขอพระพระพุทธบาทพลวงและขอพร แต่สำหรับชาวต่างชาติกลับสนใจที่จะมาเขาคิชกูฎ เพราะนอกจากจะได้ปีนเขาได้ใกล้ชิดธรรมชาติแบบเต็มๆ แล้ว การนั่งรถกระบะที่ทางอุทยานฯเตรียมไว้นั้น เรียกว่าหาขึ้นที่ไหนก็ไม่ได้อีกแล้ว เพราะที่ไหนๆ ก็หวาดเสียวสู้ที่นี่ไม่ได้แล้วค่ะ

เขาคิชกูฎตั้งอยู่ในจังหวัดจันทรบุรี และถึงแม้จังหวัดนี้มีชายหาดบ้าง แต่ก็ไม่ได้เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวมากนัก ดังนั้นนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะมาที่นี่ช่วงที่เขาคิชกูฎเปิดให้ขึ้นไปสักการะพระพุทธบาทเท่านั้น ส่วนสถานที่ท่องเที่ยวที่พวกเราประทับใจอีกหนึ่งที่ในจังหวัดนี้ คือ น้ำตกพลิ้วค่ะ เพราะว่า มีปลาพลวงเยอะมาก เยอะจริงๆ เหมาะที่จะไปพักผ่อนหย่อนใจ ให้อาหารปลา และเล่นน้ำตก เรียกกว่า แว่ะน้ำตกพลิ้ว แล้วไปไหว้พระพุทธบาทที่เขาคิชกูฎถือเป็นทริปที่ลงตัวที่สุดของพวกเราในปีนี้ที่จันทรบุรี
หากได้ยินแว่วๆ เขาจะเปิดเขาคิชกูฎเมื่อไร ถ้ามีโอกาส เราก็อยากมาอีกค่ะ ก็ไม่รู้ว่าทำไม รู้แต่ว่า แม้จะเหนื่อยแสนสาหัส แต่ก็มาได้เรื่อยๆนะ…


ฮ่องกง – มาเก๊า
กราบเรียนให้ทราบเลย ว่าถ้าเราไปฮ่องกงอีก แปลว่า ท่านไปประชุมแถวๆ นั้น พวกเราก็แว่ะเที่ยวฮ่องกงไปเลย ปีนี้เราได้ไปฮ่องกงถึงสองครั้ง ครั้งแรก คือในเดือนเมษายน ถือว่าเป็นทริปวันเกิด โดยได้ไปทั้งฮ่องกง และ มาเก๊า
ในเดือนพฤศจิกายน เราก็ได้กลับชิวๆๆๆ เล่นๆ แถวฮ่องกงอีก (แม้ว่าช่วงนั้นจะมีการประท้วงกันอย่างต่อเนื่องในฮ่องกงก็เหอะ) แต่เห็นไหมค่ะว่า ฮ่องกงอ่ะไปง่ายแค่ไหน และไปเมื่อไรก็ได้…

ยังคงอยู่แถวๆ เดือนเมษายน ที่เราได้จัดกลุ่มกันไปเล่นสงกรานต์ที่ถนนข้าวสาร ไม่เคยไปมาก่อน อยากย้อนวัย แก่แล้วก็ยังไปกันได้ค่ะ แต่คนเยอะมาก เรียกว่า เปียกแต่ไม่หนาว เพราะว่าเดินเบียดกันแน่น ตอนไปไปกันเป็นกลุ่มใหญ่มาก แต่พอเดินเข้างานแล้วหลงกัน สุดท้าย เหลือกันแค่ 4คน

*ภาพกลุ่ม ปล ขอขอบคุณงานปาร์ตี้เล็กๆ เก๋ไก๋ แต่จุดประกายให้เราอยากทำ กัวคาโมเล่เป็น โดยเจ้าบ้านที่น่ารัก Candyce กับ Carlos นับว่าเป็นจุดรวมตัวที่ไม่ธรรมดาก่อนที่เราจะไปรั่วกันต่อที่ถนนข้าวสาร

ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด ปี2015 นี้จะไปเล่นที่สีลมกันค่ะ 5555555555


New Orleans, USA
เมษา-พฤษภา เป็นทริปอีกทริปนึงที่เตรียมไว้ตั้งแต่ต้นปี เพราะได้เดินทางกลับไปเที่ยวที่ประเทศสหรัฐอเมริกาอีกครั้ง แถมยังได้นั่งเครื่องบินเฟิร์สคลาสที่ระยะทางยาวไกลที่สุดเป็นครั้งแรก(เริ่ดค่ะ) จำได้ว่าตอนนั้นเวลาจะช้อปปิ้งเสื้อผ้า มักจะพูดว่า “ชุดนี้ เอาไว้ใส่ตอนขึ้นเครื่อง” 555 ก็ไม่เคยขึ้นเครื่องบินแล้วได้นั่งเฟิร์สคลาสแบบนี้นี่นา ทริปนี้หลักๆ ติดตามเขาไปประชุมที่เมืองนิวโอลีนส์ รัฐหลุยเซียน่า และไปเยี่ยมญาติที่รัฐอาคันซอว์

สำหรับการมาเยือนเมือง นิวโอลีนส์ในครั้งแรกนี้ ก็นับว่าเป็นโชคดีของเราที่ได้มา เพราะเป็นเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งหนึ่งที่อเมริกา นอกจากโด่งดังเรื่องอาหารการกินแล้ว ยังมีเสน่ห์และกลิ่นอายความเป็นฝรั่งเศสในตัว ไม่ว่าจะเป็นการตกแต่งบ้านเรือนของคนที่นี่ ทำให้รู้สึกว่าเหมือนได้เที่ยวถึงสองประเทศเลยทีเดียว

ที่สำคัญ และเรียกว่า ฟ้าประทานมากๆ ที่เพื่อนบ้านท่านเชิญพวกเราไปทาน crawfish ต้ม ซึ่งนับว่าเป็นอาหารยอดนิยมมันช่างประจวบเหมาะที่เรามาเป็นช่วงฤดู crawfish (กุมภา-มิถุนา) เลยได้ทาน crawfish เป็นครั้งแรก เพราะเจ้าสัตว์น้ำสายพันธุ์นี้ไม่มีในเมืองไทย แถมมันอร่อยสะด้วยสิ!!!


หัวหิน
มาหัวหินก็ตั้งหลายครั้งนะ แต่ความทรงจำเกี่ยวกับหัวหินค่อนข้างเลือนลาง อาจจะเป็นเพราะว่าเราคาดหวังกับชายหาด และน้ำทะเลจนเกินไป หัวหินมีสถานที่ท่องเที่ยวเยอะมาก แต่ส่วนใหญ่จะถูกสร้างขึ้นด้วยวัตถุประสงค์เพื่อการท่องเที่ยวเป็นหลัก ปกติไปหัวหินก็เพื่อจะได้ถ่ายรูปกับสถานที่ท่องเที่ยวดังๆ เช่น เพลินวาน สถานีรถไฟ สวนน้ำฯ อย่างทริปของพวกเราขนาดพักอยู่ติดชายหาด แต่ก็เล่นน้ำไม่ได้ เพราะน้ำทะเลไม่ใสอ่ะ หัวหินจึงไม่ใช่ที่หมายสำหรับคนที่ชอบทะเล แต่สำหรับคนที่ชอบชิมแล้ว มาหัวหินที่เดียวรับรองว่าพุงกางตลอดทริป

เกาะเสม็ด เสร็จทุกราย…?

จริงๆ แล้วคงต้องพูดว่า เกาะเสม็ด เสร็จพวกเรา เพราะว่าเป็นรวมตัวกันเป็นกลุ่มเป็นก้อนได้มากเท่าที่เคยรวมตัวกันได้ ทริปนี้เป็นทริปที่สนุกกันสุดเหวี่ยงทั้งกลางวันกลางคืน ก็นี่แหล่ะเป็นข้อดีของเกาะเสม็ด เพราะแค่อยู่กันบนเกาะ ก็ไม่ต้องไปซื้อทัวร์ซื้อทริปอะไรเพิ่มอีกแล้ว (นอกจากว่าจะอยู่เป็นอาทิตย์เป็นเดือน ก็ค่อยว่ากันอีกที…)

“แล้วเจอกันที่ ภูเก็ต”
จะไม่ให้ฮิตติดปากได้อย่างไร “See you in Phuket” ก็เราดันไปเจอฝรั่งที่ไหนก็ไม่รู้ในลิฟท์ คิดว่าเขาจีบเรา อิๆๆๆ (ฮอต และเสน่ห์แรงมากเลยเรา) คุยกันไปคุยกันมา ฝรั่งถามเราว่า วันหยุด (ช่วงวันแม่) นี้จะไปไหนเหรอ? เราบอกแกมอวดว่าจะไปพักร้อนเล่นๆ ที่ภูเก็ต ฝรั่งเลยตอบแบบหยิกแกมหยอกว่า เขาไม่รู้จะไปไหนสินะ แต่ไม่แน่นะ ไว้เจอกันที่ภูเก็ต! คือพูดอย่างเดียวไม่เท่าไร แอคติ้งเขาสุดยอดมาก นึกถึงเอลวิส ที่โยกทุกท่อนเพลง หรือบี้เดอะสตาร์ที่มีท่าประกอบเพลงทุกคำอ่ะ เหมือนฝรั่งคนนี้เลย! เราแทบเดินหนีออกจากลิฟท์ไม่ทัน หลงคิดว่าตัวเองเสน่ห์แรง ที่ไหนได้ เจอคนเยอะนี่เอง!!!

การมาภูเก็ตครั้งแรกครั้งนี้ โชคก็ไม่ค่อยเข้าข้าง เพราะว่าป่วย ลงเล่นน้ำไม่ได้ เลยซื้อทัวร์ตกปลา ทัวร์รอบเมืองภูเก็ต โหนสลิง ฯลฯ เล่นอยู่บนบกได้อย่างเดียว แต่บอกว่า ภูเก็ต แพงทุกอย่างงงงงง ขนาดช่วงนี้เป็นยุคที่คสช มาควบคุมนะ คิดดู ตุ๊กตุ๊ก นั่งใกล้ๆ 200 บาทตลอดเลย…
คือ นอกจากแกงปูที่ร้านระย้า ก็ไม่มีอะไรแล้วที่ทำให้เราอยากกลับมาภูเก็ตอีกครั้ง…(คืออันนี้ อาจจะเพราะว่า ยังไม่ได้ไปทัวร์เกาะ หรือดำน้ำนะ เลยรู้สึกธรรมดาๆไป…)


กรุงเทพฯ ก็มีตลาดน้ำ???
เวลาเดินหลงๆ แถวๆ สยามทีไร คอยจะมีฝรั่งถือแผนที่เดินมาถามว่าไปตลาดน้ำยังไง? ตอนแรกนึกว่าถามถึงตลาดน้ำดำเนินสะดวก หรือ อัมพวา ถามไปถามมา คือเขาถามถึงตลาดน้ำในกรุงเทพฯ เฮ้ย!ในกรุงเทพฯ ก็มีตลาดน้ำด้วยเหรอเนี่ย??? ไม่พูดพร่ำทำเพลง รีบหาข้อมูล ที่รู้ๆ มีตลาดน้ำสองที่ใหญ่ๆ ในกรุงเทพฯ คือ ตลาดน้ำคลองลัดมะยม กับ ตลาดน้ำขวัญเรียม

เราไปกันทั้งสองที่เลย โดยรวมๆ ทั้งสองที่จะเด่นเรื่องอาหารการกิน แต่ถ้าจะให้เอาจริงๆ ถ้าต้องการบรรยากาศรวมๆ แบบบ้านๆ (แต่ในกรุง) นิดนึง ก็ต้องที่คลองลัดมะยมค่ะ แต่ถ้าหากสนใจจะใส่บาตรพระ (7.30-8โมงเช้า) ก็ที่ตลาดขวัญเรียม เพราะตลาดเขาตั้งอยู่ในวัด


มัลดีฟส์ สองปีที่รอคอย…
คือถ้าไม่มีเงินจริงๆ เราก็ไม่ไปนะคะ เพราะว่ามันแพงเว่อร์! แต่พอไปเข้าจริงๆ ตายล่ะ นี่เราจะเก็บเงินไปทำไมเนี่ย? น่าจะเอามาเที่ยวที่มัลดีฟส์ตั้งนานแล้วนะ!!! เพราะว่าถึงมันจะแพงจริง แต่ก็คุ้มจัง

เกิดมาไม่เคยเห็นน้ำทะเลใสขนาดนี้ แถมสัตว์น้ำเต็มไปหมด โรงแรม (ลิลี่บีชรีสอร์ท แอนด์สปา) ก็เพอร์เฟคเว่อร์ อาหารการกิน ทุกสิ่งอย่าง นี่มันสวรรค์ชัดๆ พวกเราเริงร่ากันสี่คืนเต็มๆ ก็กลับมาโลกมนุษย์ เอ้ย กลับจากมัลดีฟส์

สิ่งที่ตั้งปฏิธานไว้หลังจากจบทริปคือ อีกสองปี ถ้าโลกไม่มีเหตุเภทภัยอะไรมากมาย เราจะกลับมามัลดีฟส์อีก ทำงานเก็บเงินกันก่อน สู้ๆๆๆๆๆๆๆๆ


สุโขทัย & พิษณุโลก
อยากพาฝรั่งไปเที่ยวสุโขทัยมานานแล้ว แต่ว่ามันไกล แถมถึงจะขึ้นเครื่องบินไปได้ แต่ก็ไม่ได้ สะดวกสบายอย่างที่คิด รวมๆ แล้วเสียเวลาพอๆ กัน จึงตัดสินใจ ขับรถไปเที่ยวกับที่สุโขทัยกันช่วงคริตส์มาสปีนี้ จริงๆ ปีนี้ช่วงนี้กระแสความหนาวเมืองเหนือแรงมาก จู่ๆ อุณหภูมิก็ดร๊อบลงหลายองศามาก คิดว่าไปสุโขทัยต้องหนาวแน่ๆ ที่ไหนได้ พอเรามาถึงอากาศเปลี่ยนแปลงไปร้อนหมือนเดิม
ทริปสี่วัน สามคืนพวกเรา คืนแรก เราค้างคืนที่ที่พิษณุโลก แว่ะไหว้พระพุทธชินราช และชิมก๋วยเตี๋ยวห้อยขา


คืนที่สอง และ สาม เราพักที่สุโขทัย (ห่างจากพิษณุโลกแค่ 20-30 นาทีเองค่ะ) แต่โรงแรมห้าดาวที่สุโขทัย สู้โรงแรมสี่ดาวที่พิษณุโลกไม่ได้เลยจริงๆ เศร้า จำติดตาเลยว่า ผ้าขนหนูขอบรุ่ยมาก ผ้าปูที่นอนก็มีรู 555
สิ่งที่ประทับใจเราที่สุโขทัยมากที่สุด คือการได้ปั่นจักรยานรอบๆ อุทยานประวัติศาสตร์ ขอชื่นชมผู้ว่าฯ หรือ ผู้ที่ดูแลเมืองสุโขทัย เพราะว่า บำรุงรักษาอุทยานประวัติศาสตร์ ได้ดีมาก ทริปนี้ได้กินแต่ก๋วยเตี๋ยว แต่ก็มีหลายแบบให้ลองทานมากๆ

โหย เที่ยวตั้งแต่ต้นปี จนสิ้นปี รู้สึกเลยว่าเที่ยวเก่งเหมือนกันนะเนี่ย…

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Scroll Up