ดานัง ปี 2568 ไปแล้ว ทำไมรู้สึกแค่งัันๆ

มัดรวมดานัง ว่าไปไหนกันบ้าง ค่าใช้จ่ายต่อคนประมาณเท่าไร ไปแล้ว ชอบไหม? คุ้มไหม?
ทริปดานังเป็นทริปผสม ระหว่าง สามคืนแรกกับครอบครัวรวมกัน5คน และสามคืนหลังเป็นทริปคู่แค่เราสองคนกับทิม

วีซ่า

พวกเราสี่คน คนไทย มีแค่พาสปอร์ตก็เดินทางไปเวียตนามได้แล้วค่ะ อย่างญาติๆสามคน เราให้ไปทำพาสปอร์ตแบบคนละ 10 ปีไปเลย มีค่าใช้จ่าย ประมาณคนละ 1,570 บาท แต่ส่วนทิม ต้องขอวีซ่า โดยสามารถทำผ่านออนไลน์ได้ที่ Vietnam eVisa คำเตือน อย่าไปผิดเว็บไซต์นะ มีเว็บเถื่อนเยอะมาก ค่าวีซ่า แบบ เข้าออกครั้งเดียว Single Entry คือ $25 เราทำก่อนล่วงหน้า กว่า สองเดือน โดยเขาจะให้ระบุ วันที่ที่จะไปเวียตนาม (วันที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้) และ จะถามว่าไปสนามบินไหน พักโรงแรมอะไร (ซึ่งพวกเราเปลี่ยนโรงแรมที่พักภายหลังก็ไม่มีปัญหา เพราะมันไม่ได้ระบุบนหน้าวีซ่า)

ได้วีซ่าแล้วก็ปริ๊น เอาติดตัวไปด้วย แต่ตอนที่เราถึงสนามบินดานัง เราก็เห็น เค้าน์เตอร์ Visa on Arrival แต่คนต่อแถวมุงกัน เลยไม่ได้ถ่ายรูปมา แต่ถ้าต้องใช้วีซ่าจริงๆ แนะนำให้ทำผ่านออนไลน์ อย่างของทิมใช้เวลาแค่ 3วันก็ได้แล้ว (แต่เขาบอกว่าให้เผื่อเวลาล้วงหน้าไว้เป็นอาทิตย์ๆก่อนเดินทางจริง)


สายการบิน
จาก กทม เราเลือกบินด้วยสายการบิน แอร์เอเซีย จากดอนเมือง ไป ดานัง ซึ่งใช้เวลา บิน 1 ชั่วโมง 45 นาที สายการบินแอร์เอเซีย เราซื้อผ่านอโกด้า ถามว่าถูกลงกว่าซื้อโดยตรงกับสายการบินไหม เราไม่แน่ใจ เพราะสุดท้าย เราต้องมาจ่ายเพิ่มเพื่อเลือกที่นั่งติดกัน จ่ายเพิ่มกระเป๋าเดินทางอีก (เขาให้ถือขึ้นเครื่อง ถือใด้สูงสุด 2 ใบ และ รวมกันไม่เกิน 7 กก ต่อหนึ่งคน) บวกมาบวกไป ค่าตั๋วเครื่องบิน ไปกลับ เฉลี่ยคนละ 6,500บาท!!! แต่ตั๋วเครื่องบิน ราคาจะถูกจะแพง ก็ขึ้นอยู่กับเวลาที่เราเลือกด้วย
ตอนเช็คกระเป๋าที่ ดอนเมือง น้องที่เค้าน์เตอร์ ค่อนข้างสบายๆ ไม่ซ้ำแซะ แต่ขากลับ ผู้หญิงเวียตนาม(คนนี้ตรวจทุกใบ แล้ว เที่ยวบินเราดีเลย์ เขาบอกว่า โหลดได้ สองใบ คือ ใบหนึ่งห้ามเกิน 20 กก (เพราะเราซื้อเสริมไว้) และอีกใบ 7 กก ฟรี แล้วใบหนึ่งเรา 23 กก นางก็บอกให้เราเอา 3 กก ออกมาใส่ใบเล็ก เพราะใบเล็กน้ำหนักเหลือ คือ แทนที่เขาจะเฉลี่ยสองใบไป เขาให้เราถ่ายไปมา (ไม่เหมือนน้องเค้าน์เตอร์คนไทย คือ กี่ใบก็แล้วแต่ ขอให้ไม่เกินน้ำหนักรวมที่เขากำหนด) แล้ว คนเวียตนามคนนี้ก็ไม่ค่อยมีใจบริการ เวลาพูดไม่มองหน้าพวกเรา งึมงำอยู่กับหน้าจอ ถ้าเจอหน้านี้ เลี่ยงไปต่อเค้าน์เตอร์อื่นนะ เพราะน้า กับน้องๆ เราเช็คกับ ผู้ชายมีมนุษย์สัมพันธ์ดีกว่ามากๆ (เสียดายไม่ได้ถ่ายรูปเขามา คนทำงานดี โลกต้องรับรู้!) แค่จะบอกว่า ไม่ได้เป็นที่เราจะเจอคนชาติไหน แต่เราจะเจอคนแบบไหนต่างหาก…

บนแอร์เอเซีย ถ้าไม่ซื้ออะไรเลย เขาจะไม่เสิร์ฟ ตอนแรกเราหวังว่า เขาอาจจะมีเครื่องดื่มแจก แบบรินให้แก้วเล็กๆ สรุป ไม่มีเลย ต้องซื้อ จะซื้อล่วงหน้าก็ได้ ไปซื้อบนเครื่องฯ ก็ได้ น้ำดื่มบนเครื่องนั้นขวดละ 40 บาท แต่ถ้าซื้อที่สนามบินดอนเมือง ขวดละ 50 บาท

แต่มันบินไม่ถึง 2 ชม ไง ทนได้ (แต่พกขนมไปทานเองได้นะ)


รถรับจ้าง รถแท็กซี่ในดานัง

ตอนแรก เราดูรีวิวตามยูทูป ส่วนใหญ่คนไทย จะเรียก แกร๊บ กัน แต่เราเห็นว่า พวกเรามากัน 5 คน ก็อยากหารถส่วนตัวสำหรับทริปนี้ไปเลยก็น่าจะสะดวกดี ไปๆ มาๆ เราไปตามเพจ เที่ยวดานังด้วยตัวเอง ก็เลยเจอรถรับจ้าง ลองส่งข้อความไปถามราคาเขาดู (แชทกันเป็นภาษาอังกฤษ แต่เหมือนเขาแชทเป็นภาษาไทยได้ด้วย) ราคาที่เขาเสนอมาก็ไม่เลวร้าย ตลอดทริป เราเสียค่ารถรับจ้างแค่ 6000 บาท สำหรับทัวร์ทั้งหมด 6วัน รวมร้บส่งสนามบินกับโรงแรมด้วย  (โดยเขาจะส่งราคามาตามวันและสถานที่ที่เราจะไป)

เราไม่แน่ใจว่าเราได้ยินชื่อเขาถูกเปล่า ตอนเขาแนะนำตัว ว่าชื่อ “ตุ๋ง” โดยรวม เราให้คะแนน 9/10 นะ ถ้าไปอีกก็จะอาจจะติดต่อคนนี้แหล่ะ (แต่คิดว่า คงไม่ไปดานังอีกแล้ว)  ตุ๋งเป็นคนมีความรับผิดชอบ ราคาค่ารถเขาให้เราจ่ายทีเดียววันสุดท้ายเลย แล้วข้อดีที่สุดของตุ๋งคือ เราสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอด เรพาะ มีสองวัน ที่เราป่วย (ท้องเสีย) แล้วเรายกเลิกตุ๋งกันแบบ วันต่อวัน ก็แอบรู้สึกผิด แต่ว่าไม่ไหวกันจริงๆ ตุ๋งมีความรับผิดชอบสูง บางวันตุ๋งติดธุระ ก็จะหารถมารับส่งพวกเราแทน มีครั้งนึงน้องบ่นว่า อยากเข้าห้องน้ำ ตุ๋งแบบซิ่งมาก เพราะกลัวพวกเราจะอั้น แม้เราก็พยายามบอกว่า ไม่เป็นไร ไม่รีบ แต่ตุ๋งก็พยายามไปห้องน้ำให้เร็วขึ้น

แต่ถ้าเราจะแนะนำว่าถ้าไปกับตุ๋ง ให้บอกตุ๋งไปเลยว่าจะไปไหน เพราะที่เรารู้สึกผิดหวังมากคือ ตุ๋งพาไปเรือกระด้ง ที่ตุ๋งรู้จัก (และน่าจะได้ค่าน้ำจากที่นั่น) แต่เราไม่ชอบ เพราะเหมือนเป็นเรือกระด้งที่จับพวกเราใส่กระด้งแล้วลอยไปเท่านั้น! (ไว้อ่านต่อ เรือกระด้ง)

อีกนิดนึงที่เราจะอยากจะแนะนำ ก็คือ หลังๆ ตุ๋ง ทั้งสูบบุหรี่หนักขึ้น และเวลาขับรถเล่นมือถือบ่อยขึ้นมาก นานด้วย (วันแรกๆ ไม่ค่อยเล่น หรือถ้าจะเล่นมือถือ ก็ตอนจะหาข้อมูลให้พวกเรา) แต่ตุ๋งนิสัยดีนะ ปลอดภัย และดูแลดี เวลาไปไหน แนะนำว่ากินอะไรดี และคอยเตรียมน้ำดื่มให้เราพกติดตัวไปตลอด

รถตุ๋ง ก็สภาพโอเคเลย แต่วันที่ตุ๋ง ส่งคนอื่นมารับพวกเราแทน รถที่ส่งมาแทนใหม่กว่า และกว้างกว่า 555 สามารถติดต่อตุ๋งได้ที่เฟสบุคเขา Ngô Minh Tuan

***แต่ ปกติจะมีรถรับจ้าง(ป้ายทะเบียนเหลืองๆ) มาจอดหน้าโรงแรม แล้วคอยถามพวกเราตลอดว่า แท็กซี่ไหมๆๆๆ ให้ลองกดเช็คราคาในแกร๊บดูว่า ประมาณเท่าไร ก็เอาไปเป็นราคาที่สามารถต่อรองกับแท็กซี่ที่จอดหน้าแถวหน้า โรงแรมได้


โรงแรม TMS DANANG HOTEL
กว่าที่เราจะลงเอยที่โรงแรมนี้ก็เลือกมากว่า ร้อยโรงแรม ดูรีวิว จนมึนศีรษะ ซึ่งตอนแรกเลยเราเลือก รร Vanda เพราะอยู่ติดสะพานมังกร (ทิมก็ระบุ ว่าจะพัก รร นี้ในแบบฟอร์มขอวีซ่าออนไลน์ด้วย) แต่ ด้วยความที่ทิมชอบพักอยู่ติดทะเลมากกว่า ก็เลยเปลี่ยนใจตอนโค้งสุดท้ายเลยไปพัก รร ติดหาดดานังแทน จริงๆ ดู รร SALA ไว้เพราะรีวิวดี ห้องสวย (แต่จริงๆ ดีใจที่ไม่ได้ไปพัก เพราะเราไม่ค่อยชอบ โลเคชั่น แถวนั้น) เราชอบแถว รร TMS นี่แหล่ะ
และจริงๆ เราดู M Hotel ด้วย เพราะอยู่ติดๆ กันเลย ราคาเท่าๆ กัน แถม M Hotel เป็น โรงแรมใหม่ เพิ่งสร้างด้วย แต่ตอนที่จะจอง M Hotel ไม่มีห้องที่มีเตียงไซส์ใหญ่ มีแต่เตียงคู่ ทั้งสามห้อง แต่ TMS ยังมีห้องเตียงใหญ่ เราก็เลยตัดสินใจจองที่ TMS แทน เฉลี่ยราคาห้องละ 2,850 บาทต่อคืน 

ตอนจองผ่านอโกด้านั้น เราแจ้งว่า เราขออยู่ชั้นเดียวกัน ทั้งสามห้อง และขอเป็น โซนเสียงไม่ดัง และ ถ้าเป็นไปได้ คือ ขอชั้นต่ำๆ หน่อย (ตอนนั้น ยังระแวง จากการสะเทือนของแผ่นดินไหวที่กรุงเทพฯ) สรุปเราก็ได้ตามคำขอเลย ว่า ได้อยู่ห้องติดๆ กันที่ชั้น 7

ข้อดีของ รร TMS คือ ห้องใหญ่มาก สะอาด ตั้งอยู่ตรงข้ามกับทะเลเลย (ข้ามถนนก็เป็นทะเล) รอบๆ รายล้อมด้วยร้านอาหาร ร้านนวด ร้านสะดวกซื้อ คือ สะดวกสะบายอยู่ และอาหารเช้าของโรงแรมอร่อย แม้ว่าส่วนมากจะเป็นอาหารเกาหลี (เพราะนักท่องเที่ยวเกาหลีเยอะมากๆๆ ที่ดานัง)

ข้อเสียไม่มี แต่ถ้าจะแนะนำ หากจะไปพักที่ รร นี้ ให้ขอห้องที่ไกลจากลิฟท์ เพราะทุกชั้นของ รร จะมีสองห้องที่อยู่ตรงข้ามกับลิฟท์เลย ขนาดเราอยู่ห้องถัดๆ ไปจากลิฟท์ เวลานักท่องเที่ยวเริ่มเยอะ จะได้ยินเสียงดังมาก และบางคนเข้าออก รร ตลอดคืน ตลอดวัน
ตอนจอง รร กับอโกด้า เขามีระบุว่า เราได้ เข้าเล่นน้ำที่สระใน รร ได้ด้วย (และแพงกว่า ห้องที่ไม่ได้ระบุว่า เล่นสระน้ำได้) ปกติ โรงแรมมีสระเราก็เข้าใช้ได้อยู่แล้วไหม? เราก็แอบนึกว่า โหย สระคงใหญ่ และสวยมากๆ แต่ที่ไหนได้ สระเล็กมาก คือถ้ามีคนเล่นอยู่ 2 คนในสระ เราก็ไม่อยากลงสระล่ะ แต่วิวสวยจริง เพราะเห็นวิวหาดดานังหมดเลย สรุป มีทิมได้ลงเล่นน้ำแค่ครั้งเดียว เสียตังค์เพิ่มไปฟรีทั้งสามห้องเลย

ตอนที่เราเข้าพัก ข้างๆ รร กำลังก่อสร้างศูนย์การค้า เสียงดังมาก ทาง รร เตรียมที่อุดหูไว้ให้พวกเรา แต่ เป็นสียงดังที่พอให้อภัยกันได้
ถ้าจะให้เราแนะนำ เราก็แนะนำโรงแรมแถวๆหาดดานังนี่แหล่ะ เราก็จะแนะนำ TMS นะ แต่ถ้าหากเราต้องกลับไปดานังอีก เราก็จะลองพักที่ M Hotel เพราะอยากลองอะไรใหม่ๆ


ภาษา

แม่ค้า พ่อค้าที่ดานัง สามารถพูดภาษาไทย ได้ดี พอๆ กับ ภาษาอังกฤษ แต่จะบอกว่า มองไปทางไหนก็มีแต่ภาษาเกาหลีเต็มไปหมดเลย เราสามารถอ่านภาษาเกาหลีได้บ้าง รู้และสื่อสารได้นิดหน่อย ก็เลยถือเป็นโชคดีไปเลย บางอย่างที่เขาเขียนเป็นราคา หรือ อะไรเป็นภาษาเกาหลี เราก็พอจะเดาได้อยู่


ทัวร์

หลักๆ ที่ไปดานังกัน ก็เพราะจะไปสะพานมือ ที่บาน่าฮิลล์ นี่แหล่ะ แต่เราก็พยายามอัดแน่น ให้คุ้มกับค่า เครื่องบิน ค่าโรงแรม ว่าจะเที่ยวอะไรบ้าง สรุปเราไป

ดูโชว์ที่สะพานมังกร เพราะมังกร พ่นไฟ พ่นน้ำ โชว์ทุกคืน ศ ส และ อา ตอนประมาณ สามทุ่ม สะพานนี้อยู่ข้างๆ ตลาดกลางคืน ขอแนะนำว่า เป็นความผิดพลาดของเราที่เลือกทานอาหารค่ำที่ตลาดที่นี่ในคืนแรก จริงๆ น่าจะทานอะไรแถว รร TMS ดีกว่า

บาน่าฮิลล์ ซึ่งไกลจาก รร พวกเราประมาณ 45 นาที ไฮไลท์คือ นั่งกระเช้า และสะพานมือ ความผิดพลาดของเราจากทริปนี้คือ ดันซื้อตั๋วรวมกระเช้ากับบุพเฟ่ท์ (บุพเฟ่ท์ไม่อร่อยเลย) แนะนำว่าถ้าไปบาน่าฮิลล์แบบไปกลับ ให้ไปช่วง 8โมงเช้า ถึง บ่าย2 (เพราะกระเช้าเที่ยวขากลับลงมาจากเขาเที่ยวสุดท้ายคือ บ่ายสาม)

เรือกระด้ง จะอยู่ที่เมือง ฮอยอัน ซึ่งห่างจาก ดานังประมาณ 40-50นาที เรือกระด้งจะมีหลายเจ้า แต่ละเจ้าก็จะมีแพคเกจให้เลือก อยากให้ศึกษาแล้วเลือกที่เราชอบไปเลย นี่เราตามใจคนขับรถ เขาพาไปเจ้าที่แบบ มีแต่เรือกระด้ง คือ ไปถึง จ่ายตังค์ จับนั่งเรือกระด้ง พายๆๆ ไป 20 นาที วนกลับ คือไปนั่งเรือกระด้งจริงๆ บางเจ้าเขาจะมีร้านอาหารให้นั่งชิลๆ หรือ มีแพคเกจว่า จะไปตกปู หรือ ไปเส้นไหนบ้าง แอบเสียดายในใจ คำเตือน ถ้าไม่เคยนั่งเรือมาเลย อาจจะมืนๆ ได้

ทัวร์ดานัง
1. วัดเจ้าแม่กวนอิม ไม่มีค่าเข้า เพราะเป็นวัด วัดสวย วิวสวย ต้นไม้ในวัดสวยมาก ทางไปวัดเจ้าแม่กวนอิมนี้ ผ่านร้านกาแฟมะพร้าว ซึ่ง พวกเราผู้ผ่านการชิมกาแฟมะพร้าวมา 3 ร้าน สรุปว่า ร้านกาแฟมะพร้าวร้านนี้อร่อยสุด  คนขับรถพาขับขึ้นไปวนดู ลิง แต่ปรากฎว่า วันนี้ มีลิงแค่ตัวเดียว คนขับรถบอกว่า ปกติมีเยอะกว่านี้ พวกเรามองหน้ากัน แล้วพูดว่า ไม่เคยไปลพบุรีล่ะสิ

2. ตลาดฮาน ตอนแรกคาดหวังว่า น่าจะเป็นแบบ จตุจักรเลย แต่พอไปแล้วผิดหวัง มากๆ เพราะเป็นตึกประมาณ สองชั้น แล้ว ขายของก๊อบ เสียส่วนใหญ่ และราคาที่บอก คือเพื่อต่อ 3-4 เท่า คือถ้าไม่ต่อคือเสียค่าโง่เยอะมาก เพราะเรากลับมาดูของในร้านของฝากแถว รร ของพวกเรา คือ ราคาที่เขาขายปกติ คือ ราคาที่เราต่อเขาได้แล้ว แล้วกว่าจะต่อได้ คือต้องเล่นเกม ว่าจะเดินหนี หรือไม่เอาเแล้วอ่ะ คือถ้ามาซื้อร้านปกติก็ไม่ต้องเสียเวลาต่อ! ถ้าจะไปเดินชมตลาดก็ได้ แต่ถ้าจะไปซื้อของแนะนำว่า ข้ามตลาดฮานไปเลยค่ะ

3. ถ้ำหินอ่อน ตอนแรกเราจะพาน้องๆ กับน้า ไปถ้ำนี้ด้วย แต่ต้องยกเลิกไป เพราะสภาพร่างกายของหลายๆ คนไม่พร้อม เราเลยไปถ้ำนี้กันสองคนกับทิม (หลังจากน้องๆ กับน้า กลับไทยไปแล้ว)

ถ้าหินอ่อนมีค่าเข้าชม ซึ่ง ค่าเข้าชมจะต่างกันไปขึ้นอยู่กับโซนถ้ำ โดยถ้ำที่ไม่มีลิฟท์ เราว่าเป็นถ้ำที่สวยที่สุด แต่ทางเดินขึ้นไปบนยอดค่อนข้างชัน และอันตราย (แต่เข้าไปเดินเล่นๆในถ้ำ ก็ได้) ส่วนโซนที่มีลิฟท์ขึ้น จะค่อนข้างเดินเยอะกว่า ค่าเข้าถ้ำค่าลิฟท์จะแพงกว่า ถ้ำแรก แต่ถ้าถามถึงความสวยงาม เราชอบถ้ำแรกมากกว่า

ทัวร์ที่ฮอยอัน

เมืองเก่าฮอยอัน สามารถไปได้ทุกวัน แต่เราว่า ช่วง 4โมงเย็น ถึงประมาณ 2ทุ่มนี่กำลังดีในเดือน พค เพราะอากาศ ไม่ร้อนมาก
ที่นี่สามารถเดินช้อบ เดินชิม หรือนั่งเรือได้ (พายวนหนึ่งรอบ เรียกว่านั่งเรืออย่างเดียว ไม่ได้ชมวิวอะไร) ตั๋วเรือให้ซื้อที่โต๊ะที่เขานั่งขายเรือ เพราะถ้าซื้อกับคนที่เดินขายนั้นจะเป็นราคาแบบไปตัดสินใจเอง เวลาซื้อตั๋วขึ้นเรือ จะมีคนขายกระทงเข้ามาช่วย เพราะจะขายกระทงกระดาษให้เรา แต่พอเราไม่ซื้อเขาก็จะเดินหนีหายไป

จริงๆ เราอยากไป เกาะ Cham ด้วย แต่เหมือน ต้องไปนั่งรถไป 40นาที แล้ว ต้องนั่งเรืออีก 1 ชั่วโมง แล้วรูปเกาะก็ไม่ได้จูงใจเราเท่าไร เพราะพวกเราเพิ่งกลับมาจากเกาะกูดที่ดูสวยกว่านั้นมาก แล้วถ้าเราไม่ได้ท้องเสียกัน เราอาจจะไปกลับเมืองเว้ ซึ่งไกลจากดานังไป 2 ชั่วโมง เพื่อไปดูเมืองเก่า ซึ่งเราคิดว่า อาจจะดีแล้วที่เราไม่ได้ไป เพราะ ท่าทางจะเดินทางเหนื่อย
อีกที่ที่ ตุ๋ง แนะนำ คือไม่ไกล แต่ก็ไม่ใกล้จาก ดานังมาก คือ Mỹ Sơn


หาดดานัง

มองแว่บๆ คล้าย หาดจอมเทียนพัทยา มองอีกแว่บ คล้าย หาดแฮอุนแด มีกิจกรรมหลากหลายให้เลือก ที่ชายหาด นั่งท่องเที่ยวก็เต็มหาดไปหมด แต่ตอนที่พวกเราไป คือ อากาศร้อนมากๆ ส่วนมากเราออกไปเดินเล่นชายหาดตอนเย็นๆ เท่านั้น (ก็ยังแอบแปลกใจ ที่ทิม ไม่ได้เล่นน้ำที่หาดนี้เลย ทั้งที่ชอบทะเลมากๆ)
เดินเล่นชายหาด ไปกลับ ก็เกือบๆ 3 กม


อาหาร

อาหารถือเป็นความผิดพลาดของเรา เพราะแต่ละที่ที่เราเลือกไป ค่อนข้าง ไม่อร่อย ผิดหวัง เสียดายรสชาด แต่เราพยายามผสมผสานให้ทั้งไทยและเทศ ทานด้วยกันได้ อย่างวันนึง ไปทานเบอร์เกอร์กัน ที่ร้าน Nomad แถว โรงแรม ร้านเขาค่อนข้างออกแนวร้านอาหารสวยหรู แต่จะบอกว่า เบอร์เกอร์แถวชายหาดดานัง อร่อยกว่า และถูกกว่ามากๆ เช่นที่ร้าน Paradise

อาหารเวียตนามที่อร่อยที่สุดของทริปนี้ คือร้านนี้ Bếp Ngon Việt- Vietnamese cuisine ซึ่งอยู่แถวๆ โรงแรม สามารถเดินไปเองได้ เป็นครั้งแรกที่ทานกันเสร็จแล้ว พูดว่า ถ้ามีเวลาจะกลับมาทานที่นี่อีก แอบเสียดาย ว่าวันแรกที่มาถึง น่าจะมาทานที่ร้านนี้กิน

อาหารตามตลาดกลางคืน หรือ เมืองโบราณที่ฮานอย คือ ทานกันหิว เท่านั้น

อาหารซีฟู้ด คนขับรถแนะนำให้ไปกินที่ฮานอย ร้านนี้ Nhà hàng Hải sản Mẫn อาหารสด ราคาดี ให้เยอะ แต่ไม่แซ่บ เพราะ พวกเราโหยหา น้ำจิ้มซีฟู้ดกันมากๆ แล้วที่ไปร้านนี้ เพราะอยู่ใกล้กับหมู่บ้านเรือกระด้ง ไม่ได้อร่อยถึงกับต้องจ้างรถมาเพื่อนั่งทานที่นี่ เท่านั้น…

แนะนำว่า ถ้าไปเวียตนาม (หรือต่างประเทศ) ครั้งแรก ให้พกพวก มาม่า หรือ ขนมแห้งๆ ไปด้วย อย่าไปหวังว่า จะหาอะไรทานแก้โหยได้ที่ดานัง เพราะ ไม่ค่อยมีอะไรอร่อยมาก ขนมเขาก็ไม่มีอะไรเด่น ร้านกาแฟ ก็ไม่ยังไม่มีขนมเบเกอรี่ด้วยเลย

พูดถึงกาแฟ พวกเราตั้งใจจะไปลองกาแฟมะพร้าว Coconut Coffee (จริงๆ น่าจะเรียกกาแฟกะทิ ไหม? เพราะใส่นมมะพร้าว หรือ กะทิ ก็ไม่รู้) เฉลี่ยราคาต่อแก้วคือ 59,000ดง หรือประมาณ 80 บาท

แต่จะบอกว่า กาแฟมะพร้าวนี่แหล่ะ ทำพวกเราเกือบสู่ขิด เพราะ ไปลองร้านหนึ่ง ขนาดพวกเราสั่งกันคนละเมนู คือทิมสั่งกาแฟมะพร้าว ส่วนเราสั่งกาแฟไข่ พอดื่มเสร็จ ท้องเสีย และอาเจียน ทันทีที่เดินกลับมาถึงโรงแรม ป่วยกันไปเลย แล้วป่วยนานมาก โดยเฉพาะทิม เพราะดื่มหมดแก้วเลย (เราดื่มแค่ครึ่งแก้ว) สรุป สองคืนแรก ป่วยหนักมากๆ นอนซมกันแต่ใน รร และกว่าจะหายขาดจริงๆ ก็เกือบ สี่ห้าวันเลย

ถ้าให้คะแนน การไปเที่ยวดานังในครั้งนี้ คือ ความประทับใจ 5/10 ส่วนตัวเราเลย ไม่ค่อยชอบสถานที่เที่ยวที่มนุษย์สร้างขึ้น เราชอบตอนไปเที่ยวถ้ำมากที่สุดในทริปนี้ แต่ อากาศร้อนอบอ้าว นักท่องเที่ยวก็เยอะ ตอนเข้าถ้ำอากาศไม่ค่อยถ่ายเท มีกลิ่นไม่พึงประสงค์เยอะ เพราะเราไปช่วงวันหยุดเวียตนามพอดี (แนะนำว่าศึกษาเรื่องวันหยุดก่อนก็จะดี)

สรุปมาแล้วก็ดี ดูน้าและน้องๆ ตื่นเต้นที่ได้เดินทางมาเที่ยวต่างประเทศครั้งแรก แม้ว่า มาแล้วก็งั้นๆ และทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ไม่มีอะไรติดใจที่จะอยากกลับมาดานังอีกแล้ว (เที่ยวที่ไทย ดีกว่าเยอะ จริงๆ)


นวด สปา

มีร้านนวด ร้านสปา ร้านทำเล็บ เต็มไปหมด สามารถเดินหา และสอบถามราคาก่อนตัดสินใจได้ ทิมกับเราชอบนวดเท้ากับหินร้อนมากที่สุด ราคาประมาณ 200,000 ดง ต่อ ชั่วโมง หรือประมาณ ชั่วโมงละ 270บาท (เอาจริงๆ นวดเท้าที่ไทย ดีกว่า แต่พวกเราก็ชอบตรงหินร้อนนี่แหล่ะ)


ทิป

ตอนนี้ไปไหน เที่ยวไหน ไม่ว่าไทย หรือ ประเทศอะไร ทุกคนก็รอทิปนะ ยิ่งเรามากับทิมด้วย อย่างเรือกระด้งนี่ พยายามพูดว่า “บ้ายบาย” เราหลายรอบมาก ทั้งที่เรือยังไม่ถึงท่า เหมือนส่งสัญญาณว่า จะทิปก็ทิปนะ เรานั่งเรือตกลำละ200 กว่าบาท พาย20 นาที เราให้คนพายเรือ คนละ 50,000ดง (สามคน ก็ แสนห้า) หรือคนละประมาณ 70บาท เขาขอบคุณแบบยิ้มแห้งๆ จนดูออกว่า เขาน่าจะหวังเยอะกว่านี้

แต่ตอนไปนวด 1 ชั่วโมง เราให้ทิป หมอนวดคนละ 100,000ดง (พนักงานใน รร แนะนำพวกเราว่าต้องทิปเท่านี้) น้องๆ หมอนวด ดูตื่นเต้น ดีใจมาก!

เราเลยไม่แน่ใจว่า เราดูสีหน้าคนไม่ออก หรือ เราให้ทิปไม่เหมาะสม…
ตุ๋งคนขับรถ เราทิปไป 200,000ดง จริงๆ เตรียมไว้ 5แสน แต่ เขาไม่มาส่งเราวันกลับ ให้คนอื่นมาแทน เราเลย ทิปคนแทนไปอีก แสนนึง ดง

ส่วนร้านอาหาร หรือ ร้านกาแฟ เราไม่ได้ทิป


สภาพอากาศ

เราเดินทางช่วงวันที่ 25เมษา – 1 พฤษภา อากาศค่อนข้างร้อน อุณหภูมิไม่แตกต่างจากไทยมาก คืนแรกที่มาถึงฝนตก แต่หลังจากนั้นก็โชคดีไม่ติดฝน พวกเราก็เตรียมเสื้อกันหนาวมาเผื่อตอนไปบาน่าฮิลล์เพราะมีหมอกลง แถมก่อนไปเราเช็คสภาพอากาศ บอกว่า 15องศา แต่พอไปถึง อากาศร้อนแม้จะมีหมอกปกคลุม

อัตราแลกเปลี่ยน ช่วงเดินทาง (ปลายเมษา ต้นพฤษภา 2568)
1 บาท = 750 ดง
1 ดอลล่าร์ = 26,xxx ดง

ค่าใช้จ่ายโดยรวมตลอดทริป รวมตั๋วเครื่องบิน โรงแรม ค่าเที่ยว อื่นๆ โดยประมาณเฉลี่ยแบบ คร่าวๆ ของพวกเรา 5 คนคือ คนละ 21,500 บาท (เฉพาะค่าโรงแรม กับ เที่ยวบิน ก็ตกคนละ หมื่นต้นๆ แล้ว) โดยราคาที่จ่ายนี้ก็เป็นราคาแบบทัวร์ส่วนตัวสำหรับกลุ่มพวกเรากันเอง

Note:
น้าติ๋ม และน้องๆ เดินทาง 25-28 เมษายน 2568
ทิม และ แจม เดินทาง 25เม.ย – 1 พ.ค 2568

 

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Scroll Up