วันที่4กลับจากลาวใต้ แว่ะชมเทียนแกะสลักเข้าพรรษาที่อุบลฯ ไหว้พระขอพรที่วัดพระธาตุหนองบัว

วันนี้ วันสุดท้ายของทริปลาวใต้แล้วค่า แต่ก็ยังแอบเที่ยวไม่หยุด คือไปเดินเล่นตลาดดาวเรือง แล้ว กลับมาฝั่งไทยเพื่อไปแว่ะชมเทียนแกะสลักวันเข้าพรรษาที่ปีหนึ่งมีครั้งเดียวและเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของจังหวัดงอุบลฯ โชคดีจริงๆ เลยค่ะ มาได้เวลาพอดี ต่อจากนั้นเรายังมีเวลาเหลืออีกเพราะว่าไฟล์ทขากลับเขาตอนเย็นๆ คุณหมูก็ยังพาไปสักการะขอพรที่วัดพระธาตุหนองบัวด้วยค่ะ

วันนี้ 9โมงเช้า พวกเราเช็คเอ้าท์โรงแรม Athena ที่ปากเซ จากนั้นไกด์กับคุณหมูก็มารับไปเดินเล่นที่ตลาดดาวเรืองค่ะ ถ้าหากใครที่เกิดและโตที่ชนบท ที่นี่ก็คือตลาดประจำจังหวัดแหล่ะค่ะ คือทั้งอาหารสด อาหารคาว หมูเห็ดเป็ดไก่ หรือเสื้อผ้าทั่วๆไปขาย ตลาดดาวเรืองซึ่งเป็นตลาดแห่งหนึ่งของเจ๊ดาวเศรษฐีนีเจ้าของกาแฟดังของลาว ที่เขาสร้างแบบใหญ่โตอลังการ อีกหน่อยเราคิดว่าเจ๊ดาวคงเปิดห้างสรรพสินค้าค่ะ แต่คนงานที่นี่ส่วนใหญ่เป็นชาวเวียดนาม ก็เจ๊ดาวนั้นดั้งเดิมเป็นคนเวียดนามค่ะ

ตลาดที่นี่ ดูคึกคัก ไม่ว่าเดินไปทางไหนก็เต็มไปด้วยแม่ค้าลูกค้า ทุกคนยังใช้ชีวิตแบบเรียบง่ายและดูเหมือนมีน้ำใจ รู้สึกได้ว่าพวกเขายินดีต้อนรับนักท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นคนไทยหรือชาวต่างชาติ ร่วมถ่ายภาพ หรือยอมให้นั่งรถสามล้อถ่ายรูปอย่างเป็นกันเอง

ผักและผลไม้ที่นี่สดมากๆเพราะว่าพวกนี้อากาศเค้าดีจริงๆ ค่ะ อย่างผักชี ต้นใหญ่และเขียวขจีมาก

คุณหมูกับไกด์บอกว่าชาวลาวชายส่งผักตรงไปยังตลาดไทของของประเทศไทย โดยเฉพาะผักประเภทกะหล่ำปลี

ตลาดปลาที่นี่ก็คึกคักมาก เพราะจับมาได้จากแม่น้ำโขง ปลาธรรมชาติ มีหลายชนิด บางตัวก็ตัวใหญ่มาก

แต่พอดูสินค้าจำพวกอาหารแห้งและเสื้อผ้าอื่นๆ กลับเป็นสินค้าที่นำเข้าจากประเทศ แม้หลังๆ มีบางส่วนที่มาจากประเทศจีนและมีราคาถูกกว่า แต่ไกด์หนิงก็บอกว่า สินค้าไทยได้รับความนิยมกับชาวลาวมากกว่าเพราะว่าเรื่องของคุณภาพค่ะ ยิ่งเดินรอบๆตลาดจะสังเกตได้ว่าแม่ค้าเกือบทุกร้านเปิดดูทีวีช่องประเทศไทยทั้งนั้นเลยค่ะ


ส่วนเรา ได้ต่างหูเครื่องเงินมา 3 คู่ เหตุที่ซื้อเพราะชอบแบบและลาย ไม่คิดว่ามันถูกกว่าประเทศไทยนะ


หันซ้ายหันขวา อ้าวไกด์หนิง เราหายไปไหนแล้ว???  อ้าวมานั่งจุ้มปุ๊กดูดวงนี่เอง น้องเขาชอบดูดวงค่ะ…555+

สรุปตลาดดาวเรืองนั้น ถ้าเป็นฝรั่งหรือนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่แบบไม่เคยเห็นอะไรแบบบ้านๆ ก็จะดูแปลกตาและน่าไปค่ะ แต่สำหรับเราเกิดและโตมาแบบบ้านๆ ตลาดนี้ก็เลยธรรมดาๆ ค่ะ ถ้าไม่ได้ซื้อของก็ไม่จำเป็นต้องแว่ะไปก็ได้…

ก่อนจะจากปากเซ ยังไม่วายแว่ะไปร้านกาแฟที่เพิ่งเปิดใหม่ ร้านParisian ตรงข้ามกับร้านกาแฟโรงแรมสีนุก ราคากาแฟร้านหรูๆที่นี่ ราคา เฉลี่ยแล้วแก้วละ 100+ บาททั้งนั้น แต่น้องผู้จัดการร้านที่นี่ใจดีค่ะ พวกเราอยากลองกินโดนัทแต่มีเงินลาวเหลืออยู่แค่ 14,000 กีบ แต่ราคาโดนัท 15,000 กีบ ขาดไป 1000 กีบ หรือประมาณ 5 บาท น้องเขาก็บอกว่าลดให้ ดีใจมากได้ลดไปตั้ง 5 บาทแน่ะ

ข้อดีที่แว่ะที่นี่ก็คือ ได้เข้าห้องน้ำ เพราะพวกเราจะเดินทางต่อไปที่ช่องเม็ก และใช้เวลาเดินทางจากเมืองปากเซประมาณ 45 นาทีค่ะ

แต่มันก็แป่บเดียวเอง นั่งคุยกับไกด์ไปเรื่อยๆ อ้าวนี่ถึงปากเซแล้วเหรอเนี่ย???

พอไปถึงน้องหนิง ไกด์ของเรา ก็จัดแจงเรื่องเอกสาร และพาสปอร์ตทางฝั่งลาวให้พวกเราเสร็จสรรพ ระหว่างที่รอน้องหนิง พวกเราก็ไปช้อปปิ้งที่ดิวตี้ฟรีรอ ซึ่งเค้าบอกว่าที่นี่ก็เป็นของเจ๊ดาวเช่นกันค่ะ ดังนั้นภายในสินค้าส่วนใหญ่ก็มีแต่กาแฟดาว แต่สินค้าดิวตี้ฟรีบางอย่างก็มีนะคะเช่น กระเป๋า เหล้า ไวน์ น้ำหอม ขนม ของฝากฯลฯ

เมื่อน้องหนิงเดินเรื่องเอกสารเรียบร้อยแล้ว พวกเราร่ำลาเทอ ก่อนจะแยกย้ายเดินทางกลับมาฝั่งประเทศไทย ส่วนรถตู้ก็วิ่งผ่านด่านมารอพวกเราที่ฝั่งไทยค่ะ ดูไฮโซ้ ไฮโซจริงๆ ทริปนี้ มีคนดูแลจัดการให้หมดเลย

การเดินทางในประเทศลาวจึงจบลงด้วยเท่านี้ แต่พอข้ามฝั่งมาประเทศไทย พวกเรายังเที่ยวต่อ และตรงไปที่ถนนสายเทียน

ถนนนี้เขามีไว้โชว์เทียนแกะสลักวันพรรษา ดูสวยงามและอลังการ ปราณีตจริงๆค่ะ ช่างไทยเก่งที่สุดในโลก แกะสลักเทียนได้ขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย???

สำหรับปีนี้ เทียนแกะสลักที่ได้รับรางวัลชนะเลิศก็คือ…. ก็จะมีผู้คนนิยมถ่ายรูปด้วยเยอะมาก หากไม่ได้เอากล้องมา มีร้านค้าแบบถ่ายปุ๊บปริ๊นให้ปั๊บบริการอยู่เต็มไปหมดค่ะ สนนราคาภาพละ 100 บาท

โหย แต่นี่เราห่างจากประเทศลาวไม่เท่าไร ทำไมอากาศระหว่างอุบลฯ กับปากเซ ช่างแตกต่างกันแบบนี้ คือที่อุบลฯนี่ไม่กางร่มคงจะต้องหน้ามืด หรือไม่ก็ร้อนตายแน่ๆ ค่ะ (ในขณะที่ปากเซ เย็น สบาย ฟ้าครึ้มๆ )

ชมเทียนแกะสลักฯ จนรอบก็แล้ว แต่ยังมีเวลาเหลือเฟือ คุณหมูก็พยายามจะพาเราไปให้ทั่วอุบลฯต่อ แต่มันร้อนเหลือเกินจึงขอแวะซื้อของฝาก ที่นี่รู้สึกว่า หมูยอ กับ ไส้กรอกอีสาน จะเป็นของดังของขึ้นชื่อของอุบลราชธานีค่ะ

ยังค่ะ เรายังไม่กลับกันง่ายๆ เพราะยังไงเสีย ก็ต้องแว่ะไปสักการะพระธาตุฯที่วัดพระธาตุหนองบัวอีกที่ โดยพระเจดีย์ที่นี่สูงถึง 56 เมตร นักท่องเที่ยวและคนท้องที่นิยมมาทำบุญขอพรกันค่ะ

จบทริปทัวร์ลาวใต้ที่เดินทางจากอุบลราชธานีแล้วค่ะ ถ้ามีเวลาและมีเงิน 🙂 อีกจะกลับมาเที่ยวอุบลฯ และ ลาวใต้ แน่นอนค่ะ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Scroll Up