กระบี่ 2565 (ช่วงเดือน กุมภาพันธ์)

กระบี่ช่วงโควิด แต่เป็นช่วงประเทศไทยเปิดประเทศแล้ว เราเจอชาวต่างชาติที่กระบี่มากกว่าที่เราเจอในย่านสุขุมวิท ที่ กรุงเทพฯ เสียอีก!





ทริปนี้เราพาเพื่อนชาวต่างชาติมาด้วย และเป็นครั้งแรกที่พวกเขามากระบี่ ครั้งนี้เราเลยเที่ยวกับเขาเหมือนมากระบี่เป็นครั้งแรกอีกครั้ง…

ไม่น่าเชื่อเลยว่า เที่ยวบินจาก กรุงเทพฯ ไปกระบี่จะเต็มขนาดนี้ แม้ว่าจะเป็นช่วงโควิด…

โรงแรมที่กระบี่ ทริปนี้คือ เซนทารา อ่าวนางบีช ซี่งเป็นโรงแรมใหม่ โจทย์ของเราคือ ห้องติดสระน้ำ เพราะคุณทิมชอบว่ายน้ำมาก เราจึงเลือก ห้องแบบ Pool Access
สนนราคาคืนละ 3,xxx บาท ซึ่งน่าจะเป็นราคาช่วงโควิด และพวกเราก็ชอบห้องแบบนี้มาก
พวกเราโชคดีมากที่ได้ห้องตรงกลางของสระน้ำ (4102, 4104) ขอห้องไหนก็ได้ แต่ไม่ติดกับโซนห้องอาหารก็พอ
โดยรวมแล้วดีหมด เสียอย่างเดียว ห้องไม่เก็บเสียงจากด้านนอก หากมีคนเดินหรือคุยกันข้างนอกเราจะได้ยินชัดเจนมาก มีอยู่คืนหนึ่งที่มีนักท่องเที่ยวข้างห้องกลับมาตอนตีสอง แล้วน่าจะดื่มกลับมา คุยเสียงดังมาก นอนๆ อยู่ก็สะดุ้งตื่นเลย…
ห้องอีกแบบที่แพงเข้าไปอีกคือ Pool Plunge จะเป็นห้องแบบมีสระว่ายน้ำเล็กๆส่วนตัว ห้องประเภทนี้จะหันหน้าออกทะเล และติดกับสระน้ำขนาดเล็ก พร้อมทั้งบริเวณนี้จะเป็น ร้านอาหารของโรงแรม เราคิดว่า ส่วนนี้ จะเสียงดังและไม่ค่อยมีความส่วนตัว…แต่คงได้บรรยากาศที่ติดทะเลที่สุดของโรงแรมไป
ถ้าไม่ได้ไปไหน อยู่เล่นน้ำที่ โรงแรมก็สนุกดี…
สิ่งที่เราคิดว่าดีที่สุดของโรงแรม(ในช่วงโควิดเช่นนี้คือ) อาหารเช้า ของโรงแรม ทั้งอาหารไทย และชาวต่างชาติ สะอาดและมีให้เลือกมากมาย แกงสัปปะรดที่นี่ อร่อยมาก!
ช่วงโควิด บุพเฟ่ท์ที่โรงแรม เขาจะแจกถุงมือแบบนี้ค่ะ
แต่สิ่งที่เราผิดหวังคือ พนักงานเคาน์เตอร์ มีประจำแค่คนเดียว…แต่น้องๆ ในโรงแรมทุกคนก็กระตือรือร้นทำงานดีมากๆ ไหว้ทักทายกันตลอด ถ้ากลับไปกระบี่อีก โรงแรมนี้ก็จะเป็น 1ใน3 ที่เราจะพักอีกครัังที่หาดอ่าวนาง
แต่ทุกอย่างในโรงแรม แพงมาก เบียร์ที่ปกติขวดละ 25-35 บาท แต่ใน โรงแรมคือ ที่ขวดละ 150 บาท!!! ขายแพงกว่า 5 เท่าเลย เดินไป 7-11แล้วซื้อกลับมาจะดีกว่า
จากโรงแรมเดินไปตรงถนนหลักก็ไม่ไกล สะดวกดี
ราคาโรงแรม สี่คืน พร้อมรถรับส่งสนามบินของพวกเรา สำหรับสองห้อง มีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ห้องละ 16,xxx บาท (เฉลี่ยต่อคนคือ 8,xxx บาท)
ร้านอาหารของโรงแรม เซนทารา หน้าหาดอ่าวนาง บรรยากาศดี ช่วงที่ไปเป็นช่วงวันวาเลนไทน์เขาก็จะมีซุ้มดินเนอร์แบบโรแมนติกแบบนี้ แต่ต้องจองล่วงหน้า
เลยเข้าไปหน้าหาดโรงแรมเซนทาราไปอีกก็จะเป็นร้านอาหาร The Last Fisherman Bar, สนนราคาเครื่องดื่มคอกเทลที่นี่คือแก้วละ 200บาท…
เลยเข้าไปอีกนิดจะเป็นร้านนวด ที่สร้างแบบชั่วคราว แต่ชาวต่างชาติบางคนชอบ เพราะ ได้บรรยากาศนวดชายหาด…แต่หมอนวดคือต้องโทรตาม โชคดีก็จะได้หมอที่นวดเป็นจริงๆ โชคไม่ค่อยดีก็จะได้หมอนวดแบบจับๆ คลำๆ ถ้าจะแนะนำให้ไปนวดที่ร้านนวดจริงๆ ดีกว่า
ช่วงโควิด หมอนวดร้านแบบชั่วคราว จะเดินแจกใบปลิว พร้อมผลไม้ เพื่อชักชวนให้ไปนวดที่ร้าน แอบตกใจนิดๆ เพราะหมอนวดเขาจะยืนซุ้มๆ จ้องๆ แล้วเดินเข้ามาทักทาย 555
เลยโซนร้านนวดชั่วคราวเข้าไปจะเป็นภูเขา ซึ่งมีรีสอร์ทหรูๆ อยู่ฝั่งตรงกันข้าม แต่ตรงนี้จะมีลิงป่าอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก เป็นลิงที่หากินเองโดยธรรมชาติ ดังนั้นหากถืออะไรมาก็จะโดนลิงแย่งไปได้
ตอนที่เรานวดที่ร้านนวดชั่วคราวนั้น มีเสียงประทัดหรือเสียงปืนดังเป็นพักๆ เป็นการจุดหรือยิงให้ลิงตื่นกลัวและไม่กล้าเดินเข้ามาใกล้ร้านค้า เลยทำให้บางครั้งเราเดินไปจะเจอลิงออกมาเดินเล่นที่ชายหาดเหมือนแต่ก่อน
เดินเข้าไปสุดชายหาดเลย ถึงจะเจอฝูงลิงค่ะ
ทริปนี้ มื้อค่ำๆ พวกเราไม่ค่อยเน้น เน้น มื้อกลางวัน ส่วนมื้อเช้า ทานฟรี ที่โรงแรม (และอยากแนะนำ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติว่า ให้เลือก รร ที่มีอาหารเช้าให้ด้วย เพราะ ร้านค้าที่กระบี่ส่วนใหญ่ จะเปิดสายๆ บ่ายๆ ตอนเช้าๆ จะหาทานยากมาก)
คืนแรกที่มาถึง เดินหาร้านอาหารอ่าวนางซีฟู้ด ปรากฎว่า เขาปิดไปแล้ว พ่อค้าแม่ค้าแถวนั้น ก็แนะนำให้ไปร้านอารี บาบา แทน (จากหาดอ่าวนาง จะเลย วังทรายซีฟูดไป)
ซึ่ง โทรให้เจ้าของร้านมารับที่โรงแรมได้ ร้านนี้สร้างแบบเหมือนร้านชั่วคราว แต่คนท้องถิ่นชอบมาทาน (ไม่มีฝรั่งเลยในร้าน) ราคาอาหารที่ถูก และสด (จากภาพที่เห็น)
ทั้งอาหาร ทั้งเครื่องดื่ม (แอลกอฮอล์) ทานแล้วเฉลี่ยคนละแค่ 500 บาท เอง โดยรวมก็ถือว่าเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งถ้าไม่มีร้านประจำที่กระบี่
ทานเสร็จแล้ว ให้คุณลุงเจ้าของร้านไปส่งที่หน้าหาดอ่าวนาง หรือที่โรงแรมก็ได้ด้วย… บริการฟรี ให้ทิป คุณลุงก็ไม่รับ บอกว่า ให้บริการเฉพาะลูกค้าเท่านั้น…
บริเวณถนนคนเดิน (เปิดทุกคืน ยกเว้นคืนวันพระ จะมีบางร้านที่ปิด) ช่วงนี้ สถานการณ์โควิดค่อนข้างคลี่คลาย แม่ค้าพ่อค้า ก็เริ่มขายได้
แม่ค้าบางคนบอกเราว่า ตั้งแต่มีโควิดนั้นเพิ่งเริ่มขายได้หลังปีใหม่ (2565)
ลืมอะไร อยากได้อะไร ก็มาซื้อที่นี่ได้เลย ราคาก็ไม่แตกต่างจาก จตุจักร ที่กรุงเทพฯมากนัก ราคาของแต่ละร้านขึ้นอยู่กับสกิลในการพูดภาษาอังกฤษของแม่ค้าพ่อค้าด้วยนะ…
ทัวร์แบบ  4คืน 5 วันในทริปนี้ คือ ไปดำน้ำ 4 เกาะ, เกาะห้อง,  สระมรกต (แว่ะร้าน จี้ออ และทานก๋วยเตี่ยวเป็ดที่อร่อยที่สุด และแพงที่สุดจริงๆ  มีวันหนึ่งที่ฝนตก ก็ติดเดินไปมาที่หาดหน้าโรงแรมก็สนุกดี
เพื่อนเขาพก โดรน มาถ่ายรูปเล่นด้วย (มีนักท่องเที่ยวบินโดรนกันหลายคน ไม่แน่ใจว่าต่อไปจะมีการจัดระเบียบหรือเปล่า แต่ถ้ามีควรประกาศให้นักท่องเที่ยวทราบด้วย เพราะหิ้วโดรนมันหนักมาก สงสารคนเอาไปเก้อ)
ร้านอาหารแมกซิกันที่นี่ก็อร่อยดี โดยเฉพาะเครื่องดื่มคอกเทล คือ ดี…แต่ก็มีราคาแพง…
อ่านต่อ ทัวร์4 เกาะ, เกาะห้อง,  สระมรกต




Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Scroll Up