Mountain Flight บินชมยอดเขาหิมาลัย (เนปาล)

มาถึงเนปาล แล้วไม่ชมเทือกเขาหิมาลัย ก็เสียเที่ยวแย่สิค่ะ เพราะว่า เทือกเขาหิมาลัย เป็นที่ที่มียอดเขาที่สูงที่สุดในโลกนั่นก็คือ ยอดเขาเอเวอร์เรสต์ ที่สูงจากระดับน้ำทะเล ถึง 8,848 เมตร หรือ 29,771 ฟุต!!!


Wikipedia บอกว่า คำว่า หิมาลัย มาจากภาษาสันสกฤต หมายถึง “ที่อยู่ของหิมะ” เพราะมองไปที่ยอดเขาก็มีหิมะสีขาวปกคลุมยอดเขาเต็มไปหมด อย่างที่ทราบกันว่า ยิ่งสูงก็ยิ่งหนาว แต่นี่สูงที่สุดในโลก ก็คงต้องหนาวที่สุดในโลกและก็ต้องเป็นที่อยู่ของหิมะเป็นธรรมดาค่ะ




นักท่องเที่ยวหลายๆ ท่านนิยมไปปีนเขาหิมาลัย โดยเฉพาะที่ยอดเขาเอเวอร์เรสต์กัน เพราะนอกจากจะได้เสี่ยงตายแล้วเกิดโชคดีไม่โดนหิมะถล่มทับแล้วสามารถปีนไปจนถึงยอดเขา ก็เอาไปคุยอวดได้ว่า ได้พิชิตยอดเขาที่สูงที่สุดของโลกมากแล้ว อันนี้เอาไว้ให้เราพูดเล่นกันเองนะคะ แต่จริงๆ แล้ว เหล่านักท่องเที่ยวประเภท treking ต้องชอบที่นี่แน่นอน เพราะว่า ขนาดเราแค่บินโฉบผ่านรอบๆ เรายังได้เห็นถึงความสวยงามที่ธรรมชาติสร้างให้กับเทือกเขาแห่งนี้เพราะว่าสวยมากจริงๆค่ะ


เทือกเขาหิมาลัยทอดยาวพาดผ่านพื้นที่ถึง 5 ประเทศ — ปากีสถาน อินเดีย จีน ภูฏาน และเนปาลค่ะ แต่เราจะบินชมเฉพาะส่วนที่เป็นเทือกเขาในประเทศเนปาล หรือ กาฐมาณฑุเท่านั้น แค่นี้ก็มากกว่า 20 ยอดเขาแล้วค่ะ โดยทางสายการบินเขาจะมีลิสต์รายชื่อยอดภูเขาที่เราจะบินผ่านแจกให้ทุกคนถือประกอบกับการชมยอดเขาบนเครื่องด้วยค่ะ (ตัวอย่าง ภาพข้างล่าง)

อย่างที่บอกค่ะ ว่าเราแค่บินวนรอบเทือกเขาหิมาลัยเท่านั้น ไม่ได้กระโดดลงกลางทางแล้วเดินปืนเขาเหมือนนักท่องเที่ยวท่านอื่น การบินรอบเขาหิมาลัยก็เปรียบเสมือน การบินภายในประเทศค่ะ (Demestic) เราให้บริษัททัวร์ที่จัดทัวร์ให้เรานี่แหล่ะ ซื้อตั๋วให้ โดยตั๋วเครื่องบิน เขาคิดรวมกับรถรับส่งจากโรงแรมไปสนามบิน คนละ 5,450 บาท หรือ $182 ค่ะ โดยเขาเลือกสายการบิน Yeti Airlinesให้พวกเรา แต่ถ้าสนใจ ลองเช็คกับเว็บไซต์สายการบินนี้ หรือ Buddha Air ดูนะคะ อาจจะได้ราคาถูกกว่า แต่คงต้องจ้างแท็กซี่ หรือหารถไปรับส่งเอง

บริษัททัวร์ยังเลือกเที่ยวบินให้เราตอน 7 โมงเช้าค่ะ เขาบอกว่า ช่วงเช้าสนามบินจะไม่ค่อยแออัด แถมได้บรรยากาศยามเช้าดีด้วย และเราก็ได้บรรยากาศดีจริงๆ ค่ะ เพราะว่าต้องตื่นตั้งแต่ตีห้า และลงมาขึ้นรถที่มารอรับตอน ตี 5.45 เพื่อจะไปเช็คอินก่อนเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง…บรรยากาศที่ได้คือ ตื่นแต่เช้าตรู่มาเจออากาศหนาวจัดนี่ช่างเป็นบรรยากาศที่ทรมานจริงๆ ค่ะ!

ก่อนอื่นต้องจำว่า บินภายในประเทศเราต้องเสียภาษีสนามบินเอง 200 รูปี (ภาพบนซ้ายที่จ่ายค่าภาษีสนามบิน) แล้วจึงจะนำใบเสร็จไปเช็คอินที่เค้าเตอร์กับสายการบินค่ะ

ไกด์บอกเราว่า สายการบินอาจจะล่าช้า และอาจจะไม่ตรงตามตารางบินซึ่งขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆ อย่าง เช่น ท้องฟ้าปิดไม่เป็นใจในการบิน นักบินตื่นสาย แอร์ฯยังแต่งหน้าไม่เสร็จ ฯลฯ พวกเรานั่งลุ้นกันแทบตายว่าเมื่อไรเขาจะเรียกให้ขึ้นเครื่อง แต่สุดท้ายเขาก็เรียกขึ้นเครื่องตอน 7.15  ช้าไปแค่ 15 นาทีเท่านั้น…

วันนี้มีนักท่องเที่ยวร่วมบินชมเทือกเขาโดยรวมพวกเราแล้วประมาณ 18 ท่านค่ะ และทุกท่านได้นั่งติดกับหน้าต่างหมดเลย แต่ถึงแม้จะเป็นเครื่องบินขนาดเล็ก ก็ยังมีแอร์โฮสเตสคนสวยคอยดูแลพวกเรา และคอยเป็นไกด์บอกชื่อยอดเขาแต่ละยอดอีกด้วยค่ะ (ภาพแอร์ฯของเรา ภาพซ้ายบน) ส่วนอาหารที่แจกบนเครื่องก็นี่เลยค่ะ ลูกอมคนละหนึ่งเม็ด (ภาพขวาบน)!!!

แอร์ฯ บอกว่า เดี๋ยวเราจะบินวนรอบเทือกเขาหิมาลัยหนึ่งรอบเลย ดังนั้น ผู้โดยสารทางด้านซ้ายจะเห็นเทือกเขาก่อน (ก็คือฝั่งของเรา!!!) แต่เมื่อบินวกกลับ ผู้โดยสารฝั่งด้านขวาก็จะเห็นเทือกเขาค่ะ คือสลับกันชมที่ละฝั่ง…

แต่ความบังเอิญ หรือ ความโชคร้ายก็บังเกิด เมื่อข้าพเจ้านั่งตรงปีกเครื่องบินพอดี ทุกครั้งที่จะถ่ายรูป ปีกเครื่องบินก็ปิดภูเขาเกือบจะค่อนลูกแล้วค่ะ!!!

แต่เหมือนว่าเขาจะเข้าใจความรู้สึกของเราค่ะ โดยแอร์ฯ จะประกาศให้ผลัดกันเดินเข้าห้องนักบินได้ครั้งละหนึ่งท่าน ทำให้เรารู้ว่า ที่ห้องบินนะ เป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดในเครื่องบินลำนี้!!!

และภาพที่ดีที่สุดก็ถ่ายได้จากแถวๆ นักบินนี่แหล่ะค่ะ…แต่ว่าชื่อยอดเขานี่ไม่ต้องถามนะคะ เพราะว่านอกจากจำไม่ได้แล้ว ยังไม่สามารถแยกแยะได้ เพราะว่าดูเหมือนๆ กันหมด ยังแอบคิดว่าแอร์ฯ ประจำเครื่องบินนี่ จำเก่งจริงๆ

ถ่ายรูปกันยกใหญ่เลยค่ะ ก็เพราะว่าสวยมากจริงๆ แต่เราถ่ายรูปประเภทมือสมัครเล่น ได้มาไม่กีรูปค่ะ เพราะว่าดูด้วยตาสวยกว่าเยอะ…


ก่อนจะจบ ขอกล่าวถึง เยติ (Yeti) หรือมนุษย์หิมะ ที่เป็นที่ฮือฮาของนักท่องเที่ยวที่พยายามจะค้นหาความจริงว่า มนุษย์หิมะมีอยู่จริงหรือไม่ โดยเฉพาะเคยมีข่าวว่าพบซากเท้าขนาดใหญ่ในบริเวณเชิงเขาเอเวอร์เรส ที่แม้แต่เจ้าหน้าที่พิทักษ์สัตว์ป่า และนักปีนเขาต่างก็ยังกังขา ว่าใช่ของจริงหรือเปล่า หรืออาจจะเป็นแค่หมีที่อาศัยอยู่แถบเทือกเขาหิมาลัย ด้วยความลึกลับซับซ้อนของเจ้าเยติ ทำให้เจ้าเยติดังและเป็นที่นิยมอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว โดยไม่ว่าร้านค้า ร้านอาหาร ของที่ระลึกในเนปาลก็จะมีเจ้าตัวเยติเต็มไปหมด (หรือแม้สายการบินที่เราบินวันนี้ก็ชื่อสายการบิน เยติค่ะ)

และสำหรับเทือกเขาหิมาลัย ถ้าจะไม่กล่าวถึง จามรี (YAK) หรือ วัวป่าขนยาวๆ ก็ไม่ได้ ตอนแรกเรานึกว่าจะได้เห็นเจ้าจามรีเต็มไปหมดเมื่อมาถึงเนปาล แต่ที่ไหนได้ ไม่ได้มีโอกาสเห็นสักตัวค่ะ แต่เจ้าจามรี ก็เป็นสัญลักษณ์ที่นิยมไม่แพ้กับเจ้าตัวเยติเลย โดยเราจะเห็น รูปวาดภูเขาหิมาลัยกับเจ้าตัวจามรี หรือสินค้าที่ระลึกต่างๆ ที่มีรูปเจ้าตัวจามรีนี้ทั่วเมืองเช่นกัน


มาต่อกันที่ตรงพวกเราชมวิวกันอย่างรื่นเริงโดยใช้เวลาบนเครื่องบินทั้งหมดประมาณ 35-40 นาที ก็บินได้รอบเทือกเขาหิมาลัยและสุดท้ายก็พาพวกเรามาลงจอดอย่างสวัสดิภาพค่ะ ก่อนลงเครื่องแอร์ฯ แจกประกาศนียบัตรฯ ประหนึ่งว่าได้บินรอบเทือกเขาหิมาลัยมาแล้ว และจากนั้นเธอก็ขายหนังสือค่ะ เป็นหนังสือชื่อ Everest ราคาเล่มละ $20 หรือประมาณ 600 บาทค่ะ เป็นหนังสือภาษาอังกฤษ เนื้อหาข้างในน่าสนใจดี แต่ต้องขอให้ไปหาอ่านเอง เนื่องจากเรื่องของลิขสิทธิ์นะคะ

จบการบินชมวิวยอดเขาหิมาลัยที่เวลาประมาณ 8โมงเช้านิดๆ พวกเรากลับไปโรงแรมเพื่อทานอาหารเช้า (ฟรี) ก่อน แล้วจึงค่อยลงมาเจอคนขับรถอีกทีประมาณ 11นาฬิกา เพื่อเดินทางไปยัง DAKSHINKALI ที่ห่างไกลจากเมืองไปประมาณ 40-45 นาที เป็นวัดฮินดู แต่ตอนขากลับได้แว่ะ วัดพุทธแห่งหนึ่งก็น่าสนใจดีค่ะ


อ่านต่อทริปต่อละทริปของเราที่เนปาลอย่างเข้มข้นได้ที่…

1. รีวิวเมืองกาฐมาณฑุ ประเทศเนปาล เรื่องต้องรู้ก่อนเตรียมตัวเดินทาง และระหว่างเดินทาง
The Must Know about Kathmandu, Nepal
2. City tour ในเมืองกาฐมาณฑุ สี่ที่ที่สำคัญของเมืองค่ะ SWAYAMBUNATH STUPA (วัดลิง), PETAN DURBAR SQUAR, BAUDHANATH, KATHMANDU DURBAR SQUARE
— เร็วๆ นี้ค่ะ —
3. ทัวร์อีกหนึ่งวันเต็ม โดยอันนี้ขับออกไปนอกเมืองกาฐมาณฑุ คือเมืองปักตะปูร์ อัญมณีแห่งเนปาล (มรดกโลก)แว่ะสักการะรูปปั้นพระศิวะที่สูงที่สุดในโลก และชมวิวภูเขาที่เมือง NAGARKOT
— เร็วๆ นี้ค่ะ —

หรือติดตามทริปภายในประเทศทั้งหมดได้ที่: https://www.somethingjam.com/all-trips
และทริปต่างประเทศได้ที่: https://www.somethingjam.com/thai-neighborhood-trips

About Jam

I'm Jam, the blogger, and illustrator of this website. I live in Bangkok, Thailand and Louisiana, USA when I'm not travelling.

4 thoughts on “Mountain Flight บินชมยอดเขาหิมาลัย (เนปาล)

  1. i would like you plan my trip nepal 5dec-14dec 2014 from ktm airport i wanna see himalay n got to tibet /phutan

  2. พอดีไม่ได้รับจองทัวร์นะคะ แต่ให้คำแนะนำได้ว่า จองโรงแรมผ่านเว็บไซต์เองได้เลยค่ะ พอไปถึงสนามบิน จะมีไกด์และบริษัททัวร์เต็มไปหมด พวกเราก็สุ่มๆ เลือก และทัวร์กันเองค่ะ …

  3. อยากได้ทริปเที่ยวเนปาล สำหรับ 1-2 คน
    1. โรงแรมดี 4-5 ดาว (อาหารไม่เกี่ยง)
    2. เดินเที่ยว พักสบายๆ ไม่รีบร้อน
    3. ต้องการเห็นวิวภูเขาหิมาลัย
    4. 5-7 วัน มีรถ มีไกด์ คอยอำนวยความสะดวกค่ะ
    5. ถ้าสามารถไปเที่ยวแคชเมียร์ได้ด้วย โดยเดินทางแบบไม่อันตราย ก็ดีค่ะ หรือถ้าไม่ได้ ไม่สะดวกก็ไม่เป็นไร

    แจ้งราคามาเลยน่ะค่ะ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *