ปูซาน แบบฉบับพันทิป

เขียนเล่าจากประสบการณ์จริง อยู่จริง เที่ยวเองจริงๆ

ก่อนอื่นถ้าหากมาเที่ยวเกาหลีใต้ ต้องมีแอพฯ ของตระกูล Kakao ด้วยค่ะ ไม่ว่าจะเป็น KakaoTalk, KakaoMap, KakaoMetro (สำหรับนักท่องเที่ยวยังไม่แนะนำ KakaoTaxi นะคะ เพราะเดินทางในเมืองแท็กซี่ไปมาตลอด เรียกง่ายกว่า)

*KakaoMetro ให้เปลี่ยนเมืองเป็น Busan ก่อนด้วยนะ



นอกจากนั้นก็แอพฯ แปลภาษา อย่างเช่น Google Translate หรือ NaverDict ก็ควรมีติดเครื่องไว้ ถึงแม้บางครั้งจะแปลเพี้ยนๆไปนิด แต่กว่าก็ดีกว่าเราแปลเองเยอะเลย

ก่อนอื่น ต้องทราบว่า ที่ปูซาน มีรถไฟฟ้าใต้ดินครอบคลุมพื้นที่เกือบทั้งหมดของเมือง สะอาด และ ค่อนข้างสะดวกมากๆ แต่ในส่วนของสถานที่เที่ยวบางแห่ง เช่น หมู่บ้านวัฒนธรรมกัมเชิน และวัดแฮดง หรือแม้แต่ Outlet Malls นั้น ยังไม่มีสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินที่เข้าถึงได้ ต้องนั่งแท็กซี่ต่อ (แต่สำหรับคนท้องที่เขานั่งรถเมล์ ซึ่งสะดวกสบาย ประหยัด ตรงเวลา ปลอดภัย ดังนั้นหัดนั่งรถเมล์ได้ก็ดีค่ะ ใช้แอพฯ KakaoMap ช่วยหาเบอร์รถเมล์ได้)

สนามบินที่ปูซาน ใช้ตัวย่อ PUS ซึ่งน่าจะย่อมาจากปูซาน แต่ชื่อสนามบินจริงๆ ก็คือ สนามบินกิมแฮ (Gimhae)

(1) สนามบินกิมแฮ เป็นสนามบินนานาชาติ ดังนั้นก็จะมีสองตึก  คือ ตึกในประเทศ (Domestic  국내살) และ ตึกระหว่างประเทศ (International 국세살) แม้ตัวจะติดๆ กัน แต่ไม่ทะลุถึงกัน ต้องเดินจากตึกหนึ่งไปตึกหนึ่งตรงหน้าถนน ซึ่งไม่ไกลมากนัก แต่ก็ควรศึกษาให้ดีก่อนว่าจะไปตึกในประเทศ หรือ นอกประเทศ (จะได้บอกแท็กซี่ถูก)
>> วันแรกที่เรามาถึง พวกเราเดินทางมาจากอเมริกาพร้อมน้องหมา 1ตัวค่ะ

สนามบินกิมแฮ มีสถานีรถไฟฟ้า สายสีม่วง ชื่อ สถานี Gimhae International Airport แต่ก็ค่อนข้างไกลออกไปจากในตัวเมืองของปูซาน หรือสถานที่ท่องเที่ยวดังๆ อย่างเช่น


มาปูซาน อย่างน้อยๆ ต้องมี 2 วันค่ะ เราแนะนำให้แยกโซนการท่องเที่ยวเป็นฝั่งA และ ฝั่งB ตามภาพ เพื่ออรรถรสที่ดีในการท่องเที่ยว คือ ไม่วกวนไปมา แต่ใครจะทำข้ามจากฝั่ง A ไป B ก็ได้ภายใน 1วัน ถ้าหากมีเวลาน้อยจริงๆ แต่ก็จะได้แนวแบบไปถ่ายรูปเล่นเฉยๆ

ตัวอย่างระยะทางการเดินทางระหว่าง….
จากสนามบินกิมแฮ เข้ามาในเมืองปูซาน (1 ไป 2 ตามรูป)ที่สถานี Seomyeon ก็ต้องเปลี่ยนรถไฟฟ้าถึงสองสาย ใช้เวลาประมาณ 30นาที ค่าเดินทางประมาณ 1,800วอน (เฉียดๆ 60บาท) แต่ถ้านั่งแท็กซี่ก็จะใช้เวลาไม่ต่างกัน แต่ค่าแท็กซี่ประมาณ 15,000วอน หรือประมาณ 500บาท

หรือจากสนามบินฯ ไป หาดแฮอุนแด (1 ไป 8 ตามรูป) ถ้านั่งแท็กซี่ประมาณก็ใช้เวลาประมาณ 45-50นาที ค่าแท็กซี่ประมาณ 28,000วอน (ประมาณ เกือบๆ 900 บาท) แต่ถ้าหากนั่งรถไฟฟ้า จะต้องเปลี่ยนรถไฟฟ้าสองสาย ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง แต่ค่าเดินทางประมาณ 2000วอน หรือประมาณ 60บาท เราเคยเหมารถตู้ ถูกสุดที่หาได้ คือ 75,000วอน (เหมาะกับเดินทางมาเป็น กลุ่ม ประมาณ 4-6คน)

เขามี Airport Limousine Bus ด้วยซึ่งจะจอดตามป้ายตามจุดสำคัญๆ อันนี้ไม่เคยขึ้น แต่เขาว่าถูก และสบาย เหมาะสำหรับคนมีกระเป๋าเดินทางเยอะๆ แต่บางคนก็บ่นว่าช้ามาก (เพราะเขาจอดรับ-ส่งหลายที่)



(2) ซอมยอน หรือบางคนจะออกเสียงว่า ซอเมียน (Seomyeon) ที่นี่เพื่อนเกาหลีบอกว่าเหมือนเป็นตัวเมืองของปูซาน จะมีที่ช้อปปิ้งใต้ดิน (คล้ายๆที่ โซลเลยค่ะ) และมีตลาดพื้นเมืองขนาดใหญ่ Bujon และห้างฯ Lotte Mart เรียกมาที่นี่เพื่อช้อปปิ้ง และยังเป็นศูนย์รวมเกือบทุกอย่างไว้ที่นี่ เช่น ร้านอาหาร คลีนิคเสริมความงาม ฯลฯ

แต่ ถ้าชอบช้อปแบบ local ทั้งอาหารและสินค้าโดยเฉพาะของที่ระลึก ให้ไปที่ (5)BIFF Center (Nampodong) แต่ถ้าชอบแบบแฟชั่นเกาหลีๆ (ทั้งเด็ก วัยรุ่น วัยทำงาน วัยเกษียณ) ก็แนะนำที่รถไฟฟ้าใต้ดิน (2)สถานี Seomyeon ที่นี่เขาจะชอบเงินสด (เงินวอน) มากกว่าบัตรเครดิต บางร้านจะบวกถึง 10% ถ้าใช้บัตรเครดิต แต่บางร้านที่เป็น Tax Global ให้โชว์ พาสต์ปอร์ต แล้วเขาจะมีส่วนลดให้เลย หรือบางทีก็ให้ไปรับเงินคืนที่สนามบินนอกจากนี้ ที่นี่มี Lotte Mall ที่มี duty free ด้วย

(3)สถานีรถไฟฟ้า KTX ที่ปูซาน นั้นมีเพียงที่สถานีเดียว คือ สถานีปูซาน Busan Station(3) อยู่ติดกับรถไฟฟ้าใต้ดินสายสีส้ม ซึ่งสถานีนี้จะอยู่ตรงในจากเมืองของปูซาน

การเดินทางจากปูซานไปโซล ด้วย KTX ถือเป็นการเดินทางที่สะดวกสบายมากๆ จริงค่ะ แถมเขาอนุญาติให้นำสัตว์เลี้ยงขึ้นรถไฟ KTX ได้ด้วย สนนราคาค่าเดินทางชั้นประหยัด 59,800วอน ชั้นเฟิร์สคลาส 83,700วอน
สถานีปูซาน จึงเป็นที่นิยมสำหรับนักท่องเที่ยวภายในประเทศเดินทางด้วย KTX (รถไฟไฮสปีด) แต่จริงๆแล้วมันไม่ได้มีแค่รถไฟฟ้า KTX ที่นี่ แต่ยังเป็นสถานีของรถไฟอีกหลายสาย แต่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ จะรู้จักแค่ KTX กับ SRT (KTX จะมีสถานีปลายทางหลักๆที่ Seoul Station  แต่ SRT จะมีสถานีหลักปลายทางที่ กังนัม)

(4)ที่เที่ยวแบบ เป็นเอกลักษณ์ เฉพาะของปูซาน ก็คือ หมู่บ้านวัฒนธรรมคัมชอน ที่นี่เป็นหมู่บ้านของบนเนินเขา (ไม่ได้อยู่บนยอดภูเขานะคะ) แต่เอกลักษณ์เฉพาะของหมู่บ้านที่มีสีสันสวยงาม ก็เหมาะกับไปเดินถ่ายรูป ชมวิว แต่เอาจริงๆ ก็ทำได้แค่นี้จริงๆ นะ ไปถ่ายรูป เดิน เดินๆ ไม่แนะนำให้ไปช่วงหน้าร้อน เพราะว่า ร้อนมากกกกกกกกกกกกกกก (มันต้องเดินเยอะไง แล้วทางเดินเขาไม่ค่อยมีชายร่มนะ) ที่นี่ นักท่องเที่ยวชอบใส่ชุดฮันโบกไปเดินถ่ายรูปกันค่ะ (มีร้านเช่าที่หน้าหมู่บ้านฯ)

(5)ตลาดปลาที่ดัง ดัง ดัง คือ ตลาดปลาจากาลชิ เพราะเป็นตลาดปลาที่ใหญ่ที่สุดในเกาหลีใต้ คือไม่ใช่แค่ตลาดนะคะ มีเป็นตึกๆ เลยที่เขาขาย ทั้งอาหารทะเล พร้อมทาน หรือ เอากลับไปทานที่บ้าน พร้อมขายตลอดเวลา ตลอดปี
แต่ถ้ามาปูซาน เมนูแนะนำๆ ก็ต้องเป็นเกี่ยวกับอาหารทะเลค่ะ ซึ่งอาหารทะเลที่นี่ก็ไม่ได้มาแค่ กุ้ง หอย ปู ปลา นะคะ บางอย่างที่เราไม่เคยเห็น ไม่เคยกิน ไม่เคยคิดว่ามันจะกินได้ก็มีที่ปูซานค่ะ

เมนูพิศดาร ที่น่าลองก็คือ ปลาหมึกสดๆ ที่ยังเป็นๆ เสิร์ฟพร้อมวาซาบิค่ะ แต่ไม่ต้องลองก็ได้ มันไม่อร่อย…555 แต่หากมาเที่ยวและอยากให้รางวัลชีวิต ก็ต้องทานปูยักษ์ค่ะ (น่าจะต้องมีอย่างน้อยๆ 3000บาทต่อมื้อ สำหรับ 2-3 ท่าน)

ดังนั้น ตลาดปลา หลายๆ ที่ของปูซาน จึงถูกบรรจุในโปรแกรมทัวร์ของหลายๆ บริษัททัวร์ด้วย ก็เพราะ ไม่ต้องไปกิน แต่แค่ไปดู ก็อเมซิ่ง แล้วค่ะ



(6)หาดซองโด หาดนี้อยู่ใกล้กับตัวเมืองปูซาน หรือ ไม่ไกลจากสถานีปูซาน จุดเด่นของหาดนี้คือ นักท่องเที่ยวจะไปนั่งเคเบิ้ลคาร์ ซึ่งจะข้ามจากฝั่งหนึ่งไปยังอีกฝั่ง (ที่เหมาะแก่การเดินเที่ยวชมวิวทิวทัศน์) แต่มีนักท่องเที่ยวรอคิวนั่งกระเช้าไฟฟ้าจำนวนมาก หลายๆ คนจึงไปที่นี่เพื่อจะได้เดินบน Skywalk สะพานที่ยื่นลงไปในทะเล และส่วนในทะเลก็มีเรือเจ็ทให้บริการด้วย แปลกดี ไม่เห็นที่หาดอื่นๆ ในปูซาน แต่ที่นี่ ร้านอาหารไม่ค่อยเตะตาเตะใจเราเท่าไร อาจจะเป็นเพราะว่า ที่นี่ไม่ไกลมากจากตลาดปลาจากาลชิ…

(7)หาดกวางอันลี เป็นหาดพี่หาดน้องของหาดแฮอุนแด เพราะว่าอยู่ไม่ไกลกัน เรามองเห็นหาดกวางอันลีจากคอนโดที่เราอยู่ที่หาดแฮอุนแด แต่ถ้านั่งรถไฟฟ้าไป ต้องไปลงที่สถานี Gwanganli ซึ่งอยู่ห่างจากสถานี Haeundae ไปประมาณ 6 สถานี หาดนี้ ข้อเสียคือ ทางเดินจากสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินไกล แม้จะเดินไม่ยาก แต่เดินๆ ไป รู้สึกเหมือนหลง ส่วนหาดก็จะเล็กกว่าแฮอุนแด (หน้าหาด) แต่จุดเด่นที่หาดกวางอันลีคือ มีสะพานกวางอัน ที่สวยงาม สะพานนี้เป็นเหมือนสะพานสัญลักษณ์ของเมืองปูซาน สะพานนี้มองเห็นไกลๆ จากหาด ช่วงที่เราอยู่ที่นี่เขาเปิดสะพานให้คนขึ้นไปเดินเล่นได้ โดยเปิดประมาณ 2-3 ครั้ง ต่อปี แต่วันที่เปิดนั้นไม่แน่ ไม่นอน (แถมเปลี่ยนไปตามสภาพอากาศ จึงไม่เหมาะกับนักท่องเที่ยวที่จะแพลนมาเพื่อการณ์นี้เท่านั้น) หาดกวางอันลี เป็นสถานที่จัดการแสดงเทศกาลพลุและดอกไม้ไฟ งานประจำปีของปูซาน ซึ่งจะจัดขึ้นปีละหนึ่งครั้ง ในช่วงเดือนตุลาคม – พฤษจิกายน (ต้องกูเกิ้ลหาวันที่แต่ละปีเอาเองค่ะ)

(8)หาดแฮอุนแด มีการวางแปลนเมืองดีกว่าที่อื่นๆ ที่เราสามารถสัมผัสได้ เดินทางไปถึงด้วยสถานี Haeundae (สายสีเขียว) ออกจากสถานีปุปก็เดินไปหาดเลย แม้จะเดินเกือบๆ 500 เมตร

แต่ตลอดทางเดินมีร้านค้า ร้านอาหาร มีตลาดแฮอุนแด เรียกว่าเดินไปหาดแบบไม่เหงา พอถึงหาด จะมองเห็นด้านสองฝั่ง ของหาดว่า ฝั่งหนึ่งเป็นเกาะโดงแบ็ก (เกาะ ที่เดินเล่น ชิวๆ ธรรมชาติ ต้นไม้ ชายทะเล) แต่อีกฝั่งหนึ่งเป็นท่าเรือ ที่นักท่องเที่ยวสามารถไปซื้อตั๋วล่องเรือเที่ยวระยะสั้นๆ ได้ เดินเลยตรงท่าเรือขึ้นไป เน้น ขึ้นไป จะเป็นเขาทัลมาจิ ที่นี่มีร้านอาหารดังๆ มากมาย เช่น ร้านอาหารไทย ร้านชาบู ร้านช้อคโกแลต ร้านบุพเฟ่ท์ปูดองซีอิ๊ว(แบบฉบับเกาหลี สุดๆ)

นั่งแท็กซี่ถัดไปจากเขาทัลมาจิเพียงอีกนิดเดียว ก็จะมีหมู่บ้านอาหารทะเล จุดชมวิว ช่องซาโป Cheongsapo Skywalk ที่นี่แนะนำเมนูบาบีคิวปลาไหล สดใหม่ อร่อย ไม่เหม็นคาวค่ะ


ไกลไปทางฝั่งแฮอุนแด (ห่างจากแฮอุนแด ประมาณ 3สถานีรถไฟฟ้า) ก็จะมีห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ของชาวปูซาน คือ ห้าง Shinsegae ที่สถานี Centum City (สายสีเขียว) ที่นี่มี Duty Free อลังการมากๆ นอกจากนั้นก็มี Spaland ที่ทำสปาที่ใหญ่ที่สุด (แต่ต้องแก้ผ้าหมดเลย เขามีผ้าขนหนูให้ผืนเดียว แต่เขาแยกหญิงชายค่ะ)




(9)วัดชายทะเลแฮโดงฯ วัดนี้ เป็นวัดในศาสนาพุทธ ที่อยู่ติดทะเล วิวสวย ไปแล้ว สบายใจ แต่ก่อนจะไป ให้กูเกิ้ลดูก่อนว่าเป็นวันสำคัญทางศาสนาหรือเปล่า เพราะว่าคนจะแน่นขนัด วัดนี้อยู่ใกล้กับ Outlet ไปปลงที่วัดก่อน เผื่อจะได้มีสติเวลาช้อป

(10)ไม่ใกล้ ไม่ไกลจากวัดนั้น มีตลาดที่เราชอบมาคือ ตลาดกิจาง คนท้องที่จริงๆ เขาจะไปทานปูยักษ์ที่นี่กันค่ะ ซึ่งถูก และสดมากๆ ตลาดกิจางยังโด่งดังเรื่องอาหารท้องถิ่นอีกมากมาย แต่ตลาดนี้จะอยู่ไกลจากสถานีปูซานไปนิดนึง

แต่ถ้าหากมาปูซานแล้ว ไปที่ไหนก็มีอาหารทะเลขายค่ะ ยิ่งแถวๆ หาดดังๆ มีขายกันทั่วไป ดังนั้น ถ้ามีเวลาน้อย เจอที่ไหนก็จัดที่นั่นเลยก็ได้ค่ะ เพราะราคาอาหารทะเลที่นี่ไม่ได้ต่างกันที่ สด ไม่ สด แต่ต่างตรงที่บริการ

นอกจากนั้น ในปูซาน ก็ยังมี(3)ไชน่าทาวน์, วัดบนภูเขา หรือร้านอาหารดังๆ ตามที่คนเขารีวิวกัน แต่มันกระจัดจายยากที่จะรวบรวมมาทำทริปสำหรับคนที่มีเวลาจำกัดยากนิดหนึ่ง…

ที่เที่ยวหลักๆ ดังๆ ของปูซาน จะอยู่ตามรถไฟฟ้าใต้ดิน สายสีส้ม (Line 1) กับสายสีเขียว (Line 2) จึงไม่แปลกเลยว่า ทำไมเขาถึงสร้างรถไฟฟ้าใต้ดินนี้เป็นสองสายแรกของปูซาน

ตอนที่เราพักอาศัยที่หาดแฮอุนแด และเราก็เที่ยวอยู่แค่แถวๆ รถไฟฟ้าใต้ดินสองสาย นี้แหล่ะ

อ่อ ที่ปูซาน แม้จะหนาว หนาวมากถึง ติดลบ 5 องศา แต่หิมะไม่ตกนะคะ หรืออาจจะมีหลงๆ มาบ้าง แค่กระปริกระปรอย หากจะหาสกีรีสอร์ทที่ใกล้กับปูซาน (ขับรถประมาณ 1.5ชั่วโมง) ต้องไปที่ Eden Valley Ski Resort ค่ะ แม้จะเป็นหิมะปลอม แต่ก็เป็นสกีรีสอร์ทที่ใกล้กับปูซานที่สุดแล้ว

ดังนั้นเรามีตัวอย่างทัวร์ที่ปูซาน ใน 1 วัน ที่สามารถหรือเหมาะสำหรับหนึ่งวันที่ปูซานมาแนะนำค่ะ ให้คลิกอ่านรายละเอียด เพิ่มเอาเองในแต่ละที่นะคะ

เน้นที่เที่ยวยอดนิยมของปูซาน –> ตอนเช้าไปวัดแฮดง (9)  ก่อนเลยค่ะเพราะไกลออกไปจากในเมือง แล้วนั่งรถไฟฟ้ากลับมาทาน มื้อเที้ยงที่ตลาดปลาจากาลชิ (5) ไปเดินย่อยที่หมู่บ้านวัฒนธรรมฯ (4) แล้วหาแท็กซี่ไปต่อที่ หาดซองโด ถ่ายรูปบน Sky Walk (ถ้ามีเวลาก็นั่งเคเบิ้ลคาร์ไปเดินเล่นบนภูเขาได้) นั่งแท็กซี่กลับมาที่ BIFF Square (Nampodong) (5)เพื่อช้อปปิ้ง และทานของทานเล่น หรือถ้ามีเวลาอยู่ต่อได้อีก ตลาดกลางคืนพู พย่อง กังโทง (5) ตลาดเปิดประมาณ 1ทุ่ม คำนวนเวลาดีๆ ถ้าต้องกลับไปสถานีปูซาน แถวนี้จะห่างจากตรงนี้ประมาณ 3กม หรือ ประมาณ 4สถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน
*ถ้ามาจากวัดแล้วไม่หิว ให้เลยไปหมู่บ้านวัฒนธรรมเลยค่ะ เพราะตลาดปลาจากาลชิ BIFF Square และ ตลาดกลางคืน พู พย่อง กังโทง นี้อยู่ในบริเวณเดียวกัน แต่ หมู่บ้านวัฒนธรรมฯ และหาดซองโด ต้องนั่งแท็กซี่ออกไปอีกนิดหน่อย แต่ไม่กี่นาที

เน้นช้อปปิ้ง เน้นเฉพาะใกล้ๆ ในบริเวณตัวเมืองปูซาน ก็แนะนำ ไปหมู่บ้านวัฒนธรรมฯ (4)แล้วนั่งรถเมล์ หรือ แท็กซี่กลับมามาทานอาหารกลางวันที่ตลาดปลาจากาลชิ แล้วไปเดินหาของทานเล่นๆ และของที่ระลึกที่ BIFF Square ( Nampodong) (5) จากนั้นนั่งรถไฟฟ้าใต้ดินสายสีส้มสถานี Jagalchi (5) ไปสถานี Seomyeon (2) (ซอมยอน) เพื่อไปช้อปปิ้งที่ Underground Shopping ที่มีสินค้ามากมาย โดยเฉพาะแฟชั่นแนวเกาหลีๆ หรือ เครื่องสำอางค์ ร้านค้าแบรนด์เด่นๆ ดังๆ ของเกาหลี จะรวมกันที่นี่หมด แล้วถ้าหิวๆ นะคะ แนะนำให้เดินไปที่ห้าง Lotte (เดินถึงกันใน Undergroundนั่นแหล่ะ) ลงไปชั้นใต้ดิน ลงไปอีก มีฟู้ดคอร์ทของห้างเขา ดีๆ ทั้งนั้นค่ะ (ยกเว้นร้านอาหารไทย ไม่ค่อยอร่อย)

เน้นเที่ยวแบบมาครั้งแรก อยากบอกให้โลกรู้ว่ามาถึงปูซาน แล้ว ให้ไป วัดแฮดงฯ (9) แล้วนั่งแท็กซี่มาเดินเล่นที่หาดแฮอุนแดค่ะ(8) ที่นี่มีตลาดแบบขายอาหารทะเลให้น่าลิ้มลอง หรือถ้าไม่ชอบอาหารแนวซีฟู้ด จะทานต๊อกโป๊กกีก็มีหลายร้านให้เลือก นอกจากถ่ายรูปกับหาด (และป้ายแฮอุนแด แบบที่ใครๆ ก็ต้องถ่ายรูปกัน) สามารถไปเดินเล่นชิวๆ ที่เขาโดงแบ็กได้ ที่เขานี้ปกติคนเกาหลี หรือเรา จะไปเดินออกกำลังกายตอนเช้าค่ะ แต่เขามีทางเดินลัดเลาะเขากับทะเล ก็รื่นรมย์ชมธรรมชาติดี (ถ้าไม่ร้อนเกิน) หาดแฮอุนแดแต่ก่อนให้นักท่องเที่ยวเล่นน้ำได้แค่ปีละ เพียง 3เดือน (มิถุนายน ถึง สิงหาคม) แต่ตั้งแต่ปี 2019 (2562) อนุญาติให้เล่นน้ำได้ตลอดเวลา แต่ให้ระวังเอาเอง แต่ถ้ามาช่วงเล่นน้ำได้จริงจัง(มิถุนายน ถึง สิงหาคม) เขาจะมีร่มกางเต็มหาดให้บริการกับนักท่องเที่ยว จะเป็นช่วงที่แฮอุนแดคึกคักมากๆ ดังนั้นหาดนี้ ในแต่ละเดือน ก็จะให้ความรู้สึกไม่เหมือนกัน จากนี้ ถ้าอยากไปเดินถ่ายรูปที่หาดกวางอันลี(7)ต่อ ให้ขึ้นรถไฟฟ้าสายสีเขียว (มีสายเดียว) ที่สถานีแฮอุนแด ไปลงไปสถานี กวางอัน (ห่างกันประมาณ 6 สถานี) แต่เวลาเดินไปหาดต้องสังเกตุป้ายบอกทางดีๆ หาดกวางอันลีจะเล็กกระทัดรัดกว่าแฮอุนแด ที่นี่มีสะพานกวางอัน ที่นักท่องเที่ยวชอบมาถ่ายรูป แล้วมีสะพานเป็น background ที่นี่ก็มีร้านอาหารมากมาย แต่จะเห็นได้ชัดเจนว่า เน้นอาหารฝรั่งๆ เพราะมีต่างชาติ อาศัยบริเวณนี้มากกว่าแถวแฮอุนแดค่ะ แต่ถ้าอยากไปหมู่บ้านวัฒนธรรมคัมเชินฯ ให้นั่งรถไฟฟ้าใต้ดิน จาก สถานีแฮอุนแด ไปสถานีซอมยอน (Seomyeon) แล้วนั่งแท็กซี่ไปหมู่บ้านวัฒนธรรมฯ (4)เลยค่ะ เพราะแค่จากแฮอุนแดมาซอมยอนก็ 45นาทีแล้ว เดี๋ยวจะไม่ทันหมู่บ้านปิดตอน 6โมงเย็น (ช่วงหน้าหนาว ปิด5โมงเย็น เราต้องไปถึงก่อนเขาปิดสัก 2ชั่วโมง) แล้วขึ้นแท็กซี่ไปหาดโซงโด(6)เพื่อไปเดินชมพระอาทิตย์ตกดินและถ่ายรูปเก๋ๆ บน Sky Walk

นอกจากสถานที่ท่องเที่ยวหลักๆ เมนูดังๆ ในปูซานแล้ว อีกอย่างที่เราอยากลองคือร้านกาแฟ ที่นี่จะตกแต่งร้านกาแฟแข่งกัน ยิ่งร้านที่มีชั้นลอยฟ้า จะเป็นที่นิยมของหนุ่มๆ สาวๆ มาก ชาวเกาหลีเขาดื่มกาแฟตั้งแต่ตื่นนอน จนเข้านอนค่ะ (ทุกร้านอาหารจะมีทั้งน้ำ และกาแฟ บริการฟรีตลอด) ในย่านตัวเมือง จะมีร้านกาแฟสตาร์บัคมีทุกๆ 200เมตร นี่ยังไม่รวมร้านกาแฟอื่นๆ อีก

ร้านกาแฟที่เราชอบในปูซาน (อาจจะเจอที่เมืองอื่น แต่จะมีสาขาไม่เยอะเท่าที่ปูซาน) คือร้าน กาแฟ Compose สนนราคาแก้วละ 3000วอน หรือ ประมาณ แก้วละ 90-100บาท (นี่คือราคาถูกสุดๆ แล้วค่ะในเกาหลีใต้)

แต่ต้องจำไว้นะคะ ว่าร้านกาแฟส่วนใหญ่ในเกาหลีใต้ จะมีกฎว่า ถ้าหากนั่งดื่มในร้าน ต้องรับแก้วที่ทางร้านมีไว้ให้บริการเท่านั้น ถ้าหากซื้อเป็นแก้วพลาสติกแบบ TAKE OUT หรือ TOGO ห้ามนั่งในร้านเกิน 5นาที (หรือห้ามนั่งเลย) เพราะถ้านั่ง พนักงานในร้านเขาจะมาไล่เราออกค่ะ เราเคยโดยพนักงานร้านสตาร์บัคมาไล่เรากับตัวเลย งงมาก เพราะเราอ่านป้ายภาษาเกาหลีไม่ออก ซึ่งป้ายส่วนใหญ่จะบอกว่า ถ้าร้านใดเสิร์ฟแก้วพลาสติกให้ลูกค้านั่งในร้าน ผู้จัดการจะถูกปรับเป็นเงินค่ะ ดังนั้น เขาก็จะมาเชิญเราออกจากร้านไป แต่ถ้าหากสั่งแบบดื่มในร้าน แล้วดื่มไม่หมด ให้เอาเปลี่ยนเป็นแก้วพลาสติกทีหลังได้ค่ะ

ลองอ่านๆ ดูนะคะ




Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Scroll Up