ไป ไปเต๊อะไปแอ่ว เมืองเชียงราย…

(English version soon!) อีกครั้ง กับการกลับมาเยือนแบบเต็มๆ ที่จังหวัดเชียงราย ครั้งนี้เรียกความประทับใจให้กับพวกเราเป็นอย่างมาก เพราะช่วงที่มาเยือนนี้ ได้สัมผัสอากาศเมืองหนาวแบบหนาวๆ สมใจกันทีเดียว

เชียงรายเป็นจังหวัดเหนือสุดสยาม ไม่ใกล้ไม่ไกลจากจังหวัดเชียงใหม่ และ จังหวัดแม่ฮ่องสอน จึงไม่แปลกใจเลยที่เราจะเจอนักท่องเที่ยวแบบทัวร์วันเดียวที่เดินทางมาจากจังหวัดเชียงใหม่และแม่ฮ่องสอน ที่จังหวัดเชียงรายค่ะ
จากกรุงเทพฯ สามารถบินตรงไปที่สนามบินแม่ฟ้าหลวงจังหวัดเชียงราย เพียง 1ชั่วโมง 20นาทีเท่านั้น สามารถเลือกสายการบินทั้ง สายการบินไทย (ราคาตั๋วไปกลับ ประมาณ 5,370 – 11,310 บาท) สายการบินนกแอร์ (ราคาตั๋วไปกลับ ประมาณ 1,780 – 6,000 บาท) และ สายการบินแอร์เอเชีย (ราคาตั๋วไปกลับ ประมาณ 1,780 – 5,405 บาท) *ถ้าหากจองวันเดินทางในวันและเวลาเดียวกัน


ทริปนี้ได้คำแนะนำให้ลองเข้าพักที่โรงแรมดุสิต ไอส์แลนด์ รีสอร์ท (Dusit Island Resort Hotel) แอบบสงสัยว่าทำไมต้อง Island แต่ก็พอเดาออก ด้วยเหตุที่ว่าด้านหลังของโรงแรมเป็นแม่น้ำกก ทำให้ลักษณะโรงแรมตั้งอยู่บนเกาะ!!! ราคาห้องพักแบบมารตฐานที่พวกเราจองผ่านอโกด้า ราคาคืนละ 1,980 บาท(ไม่รวมอาหารเช้า) แต่พอตอนเช็คอินทางโรงแรมได้เสนอโปรโมชั่นอัพเกรดห้องพักเป็นแบบห้องสวีท (Suite room) พร้อมอาหารเช้า โดยเพิ่มอีกคืนละ 1,300บาท ดังนั้นราคาห้องพักจริงๆ สำหรับทริปนี้คือ คืนละ 3,280บาท พร้อมอาหารเช้า… โดยรวมก็คุ้มค่ะ ถ้าดูจากขนาดห้อง และอาหารเช้าของที่นี่

โรงแรมดุสิตฯ ค่อนข้างเก่า แต่ด้วยการบริหารจัดการที่ดี พนักงานต้อนรับและบริการดีมาก อย่างwelcome drink เป็นน้ำสัปปะรดคั้นผสมกับใบโหระพา (เยอะ และแปลกดี) อาหารเช้าก็เป็นแบบบุพเฟ่ท์ อาหารหลากหลาย มีซุ้มโจ้ก ไข่เจียว และเครื่องดื่มกาแฟเย็น ชานมเย็น ฯลฯ บริการอีกด้วย แต่ที่เราชอบมากที่สุดก็ มีแยมที่เขาทำเองและอร่อยมากๆ ถือว่า โรงแรมดุสิตฯ เหมาะที่จะเป็นตัวเลือกหนึ่งสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการที่พักในเชียงรายเช่นกันค่ะ

ยิ่งตำแหน่งสถานที่ตั้งของโรงแรม ก็ไม่เป็นสองรองใคร ถึงแม้จะไม่ได้อยู่ในระยะที่เดินไปตลาดได้เอง แต่ก็ยังสามารถเดินทางด้วยรถตุ๊กตุ๊ก สามล้อปั่น(มีวินอยู่หน้าโรงแรมฯ) หรือ แท็กซี่มิเตอร์ไปไหนมาไหนได้สะดวกสบาย อย่างเช่น จากโรงแรมไปไนท์บาร์ซ่า ตุ๊กตุ๊กก็ประมาณคนละ 20- 50 บาท แท็กซี่มิเตอร์ก็ประมาณ 60 บาท(ต่อเที่ยว) แต่ขากลับ เขาจะเรียกแพงเป็นเท่าตัว บางแท็กซี่ก็ไม่เปิดมิเตอร์ หรือถ้ารถตู้ของโรงแรมก็คิดเที่ยวละ 200 บาทค่ะ

โรงแรมหรูๆ ที่อยู่ท่ามกลางธรรมชาติสุดๆ (แต่ก็ไกลจากตัวเมืองเหมือนกัน)ที่เราอยากจะแนะนำสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาแบบครอบครัว และคู่รักหวานชื่น ได้แก่ คาทิลิยา เมาน์เทน รีสอร์ท แอนด์ สปา (Katiliya Mountain Resort & Spa) และ มณีเทวารีสอร์ทแอนด์สปา (Manee Dheva Resort & Spa)

การเดินทางในเชียงราย สำหรับนักท่องเที่ยวอย่างเราๆ ก็ไม่ยากลำบากค่ะ คล้ายๆ กับเชียงใหม่ และก็เกือบคล้ายๆ กับกรุงเทพฯเลยทีเดียว เพราะว่ามีทั้งรถตุ๊กตุ๊ก รถแท็กซี่มิเตอร์ ที่สำคัญเขายังมีรถสามล้อปั่นรับจ้างค่ะ และนอกจากนี้แล้วสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการความเป็นส่วนตัวก็สามารถเช่ารถได้ ถ้าหากไม่เช่ากับร้านดังๆ แล้วร้านที่พวกเราเช่าที่เชียงราย ก็คือ ร้านชมภูรถเช่าค่ะ อย่างพวกเราเช่ารถ Toyata Altis ค่าเช่า 1,400บาท ต่อวัน ไม่รวมน้ำมัน รถสภาพดี มีซีดีเพลงให้เปิดฟังในรถ คนรับส่งรถ ก็ตรงเวลาดีค่ะ


มาเที่ยวเมืองเหนือ นอกจากจะหลงรักบรรยากาศสถานที่ท่องเที่ยวแห่งเมืองหนาวแล้ว พลาดไม่ได้เด็ดขาดที่จะต้องชิมอาหารเมืองเหนือ ขอบอกว่า เชียงรายอาหารอร่อยทุกอย่างค่ะ ยิ่งขนมจีนน้ำเงี้ยว และ ข้าวซอยแล้ว เรียกว่า พูดถึงที่นี่ที่ไร อดคิดถึงรสชาดอาหารที่นี่ไม่ได้ค่ะ แต่สำหรับฝรั่งหรือเพื่อนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่คิดถึงอาหารฟาสฟู้ดแล้วล่ะก้อ ขอแนะนำร้านอาหารเอ๋ (Aye’s) อยู่ตรงข้ามทางเข้าตลาดไนท์บาร์ซ่าร์ค่ะ อร่อยเด็ด ทั้งอาหารไทยและเทศ!

ของฝากเมืองเหนือ ก็เป็นอะไรที่ไม่ง่ายในการแบกกลับบ้าน เพราะส่วนใหญ่เป็นของสดและมีกลิ่นชัดเจน หรือแม้แต่แคปหมูราคาแสนถูกแต่ก็เปลืองเนื้อที่เพราะว่าถุงใหญ่ปล่องๆ แต่ก็เป็นอะไรที่ไม่อยากพลาด เพราะเอาไปฝากใคร ใครก็ชอบค่ะ ยิ่งหมูยอ แคปหมู น้ำพริกหนุ่มของที่นี่ เรียกว่า เอากลับไปอร่อยต่อที่บ้านได้อีก โดยร้านของฝากมีอยู่เต็มไปหมดบริเวณตลาดเชียงราย (หรือแม้ในสนามบินเชียงรายฯ ก็มีค่ะ ราคาแพงกว่า อย่างละ 5-10 บาท) เจ้าหนอนรถด่วนก็เป็นของฝากที่นิยมเช่นกัน ร้านดังๆ ร้านใหญ่ ในเชียงรายได้แก่ ร้านสุจินต์หมูยอ และร้านพรทิพย์

สำหรับทริป 4วัน 3คืนของพวกเราในครั้งนี้ นอกจากได้เที่ยวทุกวัน แล้วยังมีไอเดีย 12 ที่เที่ยวที่ไม่ควรพลาดในเชียงราย มาฝากให้ตามทัวร์กันแบบนี้ค่ะ


วันเสาร์ที่ 7 ธ.ค. 2557: ทัวร์(1)วัดร่องขุ่น (2)บ้านดำ และ (3)ถนนคนเดิน (และเชียงรายไนท์บาซ่าร์)
วันนี้ จริงๆ แล้วพวกเราเช่ารถ แล้วขับตาม GPS ไปวัดร่องขุ่น และบ้านดำกันเอง โดยทางไปวัดร่องขุ่นไม่มีปัญหาอะไรแถมที่จอดรถก็ง่าย (ถึงแม้ว่าจะมีรถจอดกันอย่างหนาแน่นก็ตาม) วัดร่องขุ่นซึ่งออกแบบโดยอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ โดยมีลักษณะเด่นคือ พระอุโบสถตกแต่งด้วยกระจกสีเงินแวววาเป็นเชิงชั้น แถมบริเวณทางเข้าพระอุโบสถด้วยปูนปั้นสีขาวอย่างมีเอกลักษณ์แปลกตาและแฝงไปด้วยปริศนาธรรมอย่างลึกล้ำ แต่จากนั้นไปพิพิธภัณฑ์บ้านดำ ซึ่ง GPSจะค่อนข้างหลุดจากถนนใหญ่ไป เพราะอยู่ท่ามกลางชุมชน บ้านดำของอาจารย์ถวัลย์ ดัชนี หรือที่คนท้องถิ่นเรียกว่า “บ้านดำนางแล” เป็นบ้านส่วนบุคคล (ชาวต่างชาติคิดว่าเป็น วัด!) มีเอกลักษณ์ โดยการทาบ้านทั้งหมดเป็น สีดำและประดับตกแต่งด้วยไม้แกะสลัก เขาควายและหนังสัตว์ต่างๆ ด้วยความที่ด้วยสีดำ จึงมักถูกนำไปเปรียบเทียบกับวัดร่องขุ่นที่เป็นสีขาวทั้งหมดว่า “เฉลิมสร้างสวรรค์ ถวัลย์สร้างนรก”

ส่วนที่เที่ยวยามกลางคืน ยิ่งวันนี้เป็นวันเสาร์ ที่ขาดไม่ได้ก็คือ ตลาดถนนคนเดิน หรือ กาดเจียงฮายรำลึก บริเวณถนนกลางเมืองเชียงราย ถนนคนเดินที่นี่ถือว่าคึกคักมากเพราะเต็มไปด้วยอาหาร เรียกว่าเดินชิมตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทางกันเลยทีเดียว แต่ถ้าเทียบเรื่องสินค้าแฮนด์เมดยังไม่เยอะเท่าที่ถนนคนเดินที่เชียงใหม่ แต่ ที่น่าประทับที่สุดคือลานสำหรับเต้นรำวงโบราณ ทีนักท่องเที่ยวหรือ คนพื้นเมืองออกมาเร้นกันอย่างสนุกสนาน เห็นแล้วอดยิ้มไม่ได้จริงๆ แต่หากมาเที่ยวเชียงรายวันอื่นๆ ที่ไม่ใช่วันเสาร์ คือมีทุกคืน ยังมีตลาดเชียงรายไนท์บาซ่าร์ ที่ตั้งอยู่บริเวณสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดเชียงราย มีสินค้าและอาหารจำหน่าย และยังมีร้านอาหารไว้บริการนักท่องเที่ยว พร้อมชมการแสดงทั้งการแสดงดนตรีพ้นบ้าน หรือการแสดงคาบาเร่โชว์ (ฟรี) …อ่านต่อทริปวันแรกทั้งหมด เร็วนี้ๆ


วันอาทิตย์ที่ 8 ธ.ค. 2557: ทัวร์ (4)หมู่บ้านชาวเขา (5)เชียงแสน (6)สามเหลี่ยมทองคำ (7)แม่สาย-ท่าขี้เหล็ก (ราคาท่านละ 2,200 บาท)

วันนี้เป็นทัวร์เต็มวันแบบส่วนตัว มีไกด์และคนขับรถ ไปดูหมู่บ้านชาวเขาที่แม่จัน เผ่าอีก้อ และเผ่าเย้าค่ะ ขอบอกว่าขับรถมาเองได้ แต่บอกตรงๆ ถ้ามาเองโดยไม่มีไกด์ไม่กล้าเข้าไปค่ะ เพราะเหมือนกับเราเดินเข้าไปในพื้นที่ส่วนบุคคลของเขา แต่พอมีไกด์มาด้วยก็รู้สึกไม่เคอะเขินค่ะ ต่อจากนั้นไปที่เมืองเชียงแสนที่เริ่มต้นของอาณาจักรล้านนา แว่ะชมวัดเจดีย์หลวงวัดที่มีความเก่าแก่ของเมือง ก่อนที่จะไปต่อที่ สามเหลี่ยมทองคำ จุดที่แม่น้ำโขงมาบรรจบตรงรอยต่อของเขตแดนสามประเทศ คือ ไทย พม่า และลาว ตรงนี้ได้แค่แว่ะถ่ายรูปเป็นที่ระลึก เพราะเราไม่ได้ข้าวไปฝั่งลาวค่ะ ก่อนที่จะเดินทางกันต่อไปที่ ชายแดนไทย-พม่า ที่อำเภอแม่สาย ชมตลาดแม่สายที่ชาวไทยและพม่านำสินคาพื้นเมืองมาขาย นอกจากนี้พวกเรายังข้ามไปตลาดท่าขี้เหล็กทางฝั่งพม่าอีกด้วย (ชาวต่างชาติต้องนำพาสปอร์ต และต้องทำเรื่องขอข้ามแดน วีซ่าด้วยค่ะ)…อ่านต่อทริปวันที่สอง เร็วๆ นี้


วันจันทร์ที่ 9 ธ.ค. 2556: ทัวร์ (8)พระขี่ม้า (9)ดอยตุง (10)ดอยแม่สลอง และ (11)หมู่บ้านกระเหรี่ยงคอยาว (ราคาท่านละ 3,100 บาท)
อีกหนึ่งวันเต็มๆ แบบทัวร์ส่วนตัว ไกด์และคนขับรถคนเดิม แต่เริ่มรู้ใจกันมากขึ้น โดยวันนี้ต้องตื่นแต่เช้าเพราะตั้งใจไปใส่บาตร “พระขี่ม้า” ที่สำนักปฏิบัติธรรมถ้ำป่าอาชาทอง เป็นหนึ่งใน Unseen Thailand ที่อยู่บนดอยสูงในถิ่นกันดารห่างไกล ท่านพระครูเหนือชัย เจ้าอาวาส ของสำนักสงฆ์เป็นผู้บุกเบิกให้พระเณรที่นี่ใช้ม้าเป็นพาหนะในการออกบิณฑบาตร…

ไปกันต่อที่ดอยตุง “สวิตเซอร์แลนด์ แห่งเมืองเหนือ” ชมความงามของสวนไม้ดอกไม้ประดับเมืองหนาว โดยเฉพาะช่วงเดือน ธ.ค. – ม.ค.นี้ เป็นช่วงที่เหมาะและนิยมต่อการมาเดินชมดอกไม้นานาพันธ์ (แต่จริงๆแล้วเยี่ยมชมได้ตลอดทั้งปี) และที่ขาดไม่ได้คือ ชมความสวยงามของตำหนักดอยดุง พระตำหนักของสำเด็จย่าที่ทรงงานพัฒนาพื้นที่และให้ความรู้ชาวบ้านในแนวคิดการพัฒนาเกษตรที่ดอยตุง
ไปต่อที่ดอยแม่สลอง ซึ่งเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของชาวจีนฮ่อ ชิมชารสดีและถ่ายรูปสวนชาที่มีทัศนียภาพที่งดงาม แตที่ประทับใจพวกเราก็ตอนแว่ะตลาดหมู่บ้านชาวเย้าและอาข่า ก่อนที่เราจะขอให้ไกด์แว่ะที่หมู่บ้านกระเหรี่ยงคอยาว ที่นี่เป็นหมู่บ้านที่เขาจัดเตรียมให้กระเหรี่ยงหลายๆเผ่ามาอยู่และเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าเยี่ยมชม และเลือกซื้อสินค้าจากชาวกระเหรี่ยง (มีค่าเข้าชม)…อ่านต่อทริปวันที่สามทั้งหมด เร็วๆ นี้


วันอังคารที่ 10 ธ.ค. 2556 วันสุดท้าย ก่อนเดินทางกลับ (12)สามล้อชมเมืองเชียงราย
ทัวร์ครึ่งวันแบบเช่าเหมาสามล้อกันเอง สนนราคาคิดเป็นชั่วโมงๆ ละ 150 บาท โดยถือเป็นความโชคดีที่โรงแรมดุสิตฯ อยู่ในบริเวณสถานที่ท่องเที่ยวพอดี และมีวินสามล้ออยู่หน้าโรงแรมฯ หากพักอาศัยอยู่ที่อื่น อาจจะต้องติดต่อเพื่อนัดขึ้นสามล้อกันก่อนค่ะ โดยเวลาที่พวกเราใช้ในครั้งคือคือประมาณ 2 ชั่วโมง (แบบสบายๆ ไม่รีบ) แต่แว่ะ หลายที่มาก ได้แก่ วัดพระสิงห์ วัดมิ่งเมือง วัดพระแก้ว อนุสาวรีย์พ่อขุนเมงราย หอนาฬิกา แถมยังแว่ะซื้อของฝากอีกด้วยค่ะ…อ่านต่อ เร็วๆ นี้


สรุปค่าใช้จ่ายเบื้องต้น ต่อท่าน (ไม่รวมจับจ่ายใช้สอย)

ตั๋วเครื่องบิน สายการบิน โดยการบินไทย 11,310 บาท $377
โรงแรม ดุสิต ไอส์แลนด์ รีสอร์ท Dusit Island Resort (3คืน) 3,250 x 3 = 9,840 บาท (ต่อสองท่าน) 4,920 บาท $164
วันแรก (วัดร่องขุ่น บ้านดำ)
เช่ารถ 1,400 บาท เติมน้ำมัน 350 = 1,750 บาท/ 2ท่าน
875 บาท $30
วันที่ 2
(หมู่บ้านชาวเขา-เชียงแสน-สามเหลี่ยมทองคำ-แม่สาย-ท่าขี้เหล็ก)
ค่าทัวร์ คนละ 2,200 บาท
ค่าวีซ่า ด่านท่าขี้เหล็ก
คนไทย 60 บาท ฝรั่ง 600 บาท
2,260 บาท $94
 Expat 2,800 Baht
วันที่3
(พระขี่ม้า-ดอยตุง-ดอยแม่สลอง-หมู่บ้านกระเหรี่ยงคอยาว)
ค่าทัวร์ ท่านละ 3,200 บาท
ค่าเข้าหมู่บ้านกระเหรี่ยงคอยาว คนไทย 300บาท ฝรั่ง 500 บาท
3,500 บาท $117
Expat 3,700 Baht
วันที่4
สามล้อชมเมือง ชั่วโมงละ 150บาท จำนวน 2ชั่วโมง (ต่อท่าน)
300 บาท $10
รวมค่าใช้จ่ายเบื้องต้น สำหรับทริปนี้ต่อท่าน 23,165 บาท $792US

About Jam

I'm Jam, the blogger, and illustrator of this website. I live in Bangkok, Thailand and Louisiana, USA when I'm not travelling.