พาน้องหมาย้ายมาอยู่ที่เกาหลีใต้ (ชั่วคราว)!!!

เมื่อสองปีที่แล้ว เราย้ายน้องหมาจากไทยมาอยู่อเมริกาฯ และตอนนี้เรากำลังจะย้ายไปทำงาน(ชั่วคราว)ที่เกาหลีใต้กันค่ะ

แต่เคยได้ยินไหมค่ะว่า ชาวเกาหลีใต้นั้นทานสุนัข!

แต่ไปๆมาๆ คนที่เกาหลีนั้นรักสัตว์มากค่ะ สวนสาธารณะหลายที่อนุญาติให้นำสัตว์เลี้ยงมาด้วยได้ ในขณะที่ไทยยังคงจำกัดพื้นที่สำหรับสัตว์เลี้ยงอยู่…

แต่สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือ เอกสาร เพราะพวกเราไม่สามารถบอกได้ว่า เราจะเชื่อใครดี หรือ เริ่มขั้นตอนจากตรงไหน ยังไง … โดยเฉพาะที่อเมริกานี่ จะทำอะไรแต่ละอย่าง แทบจะเรียกว่า งมเข็มในมหาสมุทร

กูเกิ้ลเจอบ้าง แต่ก็ไม่น่าเชื่อถือตรงวันที่ไม่ได้อัพเดทบ้าง หรือถามที่สถานฑูตเกาหลีที่ Houstonก็ยื่นโบชัวร์กลับมาให้เราใบเดียว (เจ้าหน้าที่พูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้เลย)

สรุปของสรุปว่า

ต้นทางขาออกที่อเมริกา ขอดูใบตรวจร่างกายโดยวันที่ตรวจร่างกายนั้นจะต้องภายใน 10วันก่อนเดินทาง

BEFORE ก่อนขึ้นเครื่องออกจากอเมริกาฯ ไปเกาหลี เขาจะขอดู 1. ใบวัคซีนผลตรวจสุขภาพเพื่อนำสุนัขหรือแมวไปเกาหลี (ซึ่งออกจากกรมส่งเสริมการเกษตร ของอเมริกาฯ โดยใบนี้จะออกได้ต้องขอตรวจ Rabies Antibody Titer) 2. ใบตรวจร่างกายซึ่งลงวันที่ไม่เกิน 30วัน ก่อนเดินทาง
(เขาจะขอถ่ายเอกสารไว้เฉยๆ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเราต้องโทรแจ้งสายการบินแล้วว่าเราจะเดินทางกับสุนัข)

AFTER ตอนถึงเกาหลีหลังจากเราผ่าน ต.ม รับกระเป๋า ก่อนเดินออก จะมีเจ้าหน้าที่นั่งรออยู่ เขาจะตรวจ 1. ใบวัคซีนผลตรวจสุขภาพเพื่อนำสุนัขหรือแมวไปเกาหลี  2. ใบตรวจร่างกายฯ และ  3.ไมโครชิพในตัวสุนัข 

***อย่าลืมว่าการตรวจ Rabies Antibody Titer นั้น ปกติ ใช้เวลา 3-4 สัปดาห์ จึงต้องเตรียมตัวให้ดีค่ะ ไม่งั้นจะต้องจ่ายเงินเพิ่มอีก

โชคดีที่น้องหมาของเรานั้นติดไมโครชิพตั้งแต่ยังเป็น puppy และมีประวัติการฉีดวัคซีนอย่างต่อเนื่อง (ต่อเนื่องกว่าเราสะอีกอ่ะ) ถ้าน้องหมายังไม่มีไมโครชิพให้รีบไปทำก่อนเลยค่ะ

4/25/18

เริ่มเจาะเลือด และตรวจร่างกาย มีค่าใช้จ่าย $45
โดยเขาจะส่งเลือด ตัวเลขไมโครชิพไปให้ศูนย์ Titer (ของสัตว์) ซึ่งในอเมริกาฯ หมอเขาบอกว่ามีที่เดียวคือที่ Kansas

ค่าใช้จ่าย ในการส่งตรวจนี้ $187 โดยปกติจะใช้เวลาถึง 3-4 สัปดาห์ ถึงจะได้ผลตรวจฯกลับ แต่พวกเรากลัวไม่ทันเพราะจะเดินทางเดินหน้า เลยต้องจ่ายเพิ่มอีก $160 ซึ่ง จะเร็วกว่าเท่าตัว (เคสเรา 5วันก็ได้ผลแล้ว)

รวมๆ แล้ววันนี้เสียเงินไปหมื่นกว่าบาทล่ะ !!! ($392) ซึ่งในส่วนนี้หมอประจำตัวของน้องหมาเป็นคนดำเนินการให้ค่ะ

4/30/2018 ได้ผลตรวจจาก Titer จะได้สติกเกอร์ติดมาแบบนี้ค่ะ

5/14/2018 ได้ตั๋วเครื่องบิน และ โทรไปคอนเฟิร์มกับสายการบิน ว่าเราจะเดินทางกับน้องหมา เขาจะให้รหัสการเดินทางของน้องหมามา (แต่ส่วนมากเขาจะใส่ไปในระบบว่า ผู้โดยสารท่านนี้จะเดินทางกับสุนัข)

ทำไมต้องโทรบอกสายการบิน?  โดยส่วนใหญ่การเดินทางกับสัตว์เลี้ยงนั้น แต่ละสายการบินจะมีกฎระเบียบไม่เหมือนกัน และแต่ละเที่ยวบินนั้นก็จะมีการกำหนดจำนวนสัตว์เลี้ยงบนเครื่อง ถ้าหมดโควต้าแล้วเราก็ต้องหาเที่ยวบินใหม่

วันนี้เราก็ตรวจร่างกายน้องหมาอีกครั้ง ฉีดวัคซีนที่ถึงกำหนดให้เรียบร้อย และมีค่าใช้จ่ายอีก $60
จากนั้นคุณหมอ จะกรอก Veterinary Health Certificate for Export of Dogs & Cats to Korea (สามารถดาวน์โหลดแบบฟอร์ได้ที่ Qia.go.kr)

5/16/2018

แบบฟอร์มที่ได้จาก Qia.go.kr จะต้องส่งไป USDA พร้อมกับผลตรวจจาก Titer (แต่คุณหมอน้องหมาเราดีมาก เขาส่งแฟกซ์ไปที่ USDA เพื่อดูว่า กรอกข้อมูลถูกต้องครบถ้วนไหม?)

เมื่อทุกอย่างเรียบร้อย คุณหมอฯ ก็จะให้ตัวจริงกับเราไปส่งที่ไปรษณีย์ พร้อม เช็คอีก $121 และซองเปล่า พร้อมจ่าหน้าซองกลับมาถึงเรา(pre-paid) เขาแนะนำว่าต้องเป็นแบบส่งกลับแบบข้ามคืนเท่านั้น (overnight)

ค่าธรรมเนียมในการส่ง UPS ไปศูนย์ USDA แบบด่วน พร้อมซองเปล่าจ่ายล่วงหน้าแบบด่วน ทั้งหมดทั้งสิ้น $57

รวมวันนี้จ่ายไปอีก $177

5/18/2018

วันนี้ได้เอกสาร พร้อม stamp กลับมาจาก USDA (ตรงนี้สำคัญมาก วันที่ ที่ประทับบนแบบฟอร์มนี้ต้องมีอายุน้อยกว่า 30 วันก่อนถึงเกาหลี เช่นเราได้แสตมป์วันนี้ 5/18  เราจะต้องให้เจ้าหน้าที่ที่สนามบินปลายทางเกาหลีก่อน 6/1

5/31/2018 วันเดินทาง!!! พวกเราเดินทางด้วยสายการบิน AA จาก นิวส์ออลีน ไป ชิคาโก
น้องหมามีค่าเดินทาง $125

จากนั้น สายการบิน Korean Air จาก ชิคาโก ไป โซล และไปต่อ ปูซาน (รับกระเป๋าและผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองที่ปูซานเลย)
น้องหมามีค่าเดินทาง $200 จ่ายแค่ครั้งเดียวที่ชิคาโก

กระเป๋าที่ใส่น้องหมาในการเดินทางต้องมีขนาด กว้าง 12″ x ยาว 16″ x สูง10″

เมื่อเราผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองที่ปูซาน (ปลายทาง) แล้ว ก็เดินมารับกระเป๋าเดินทาง จากนั้น เขาจะมีด่านตรวจฯ (ที่เมืองไทยน่าจะใช้คำว่า จุดตรวจของที่ต้องสำแดง

เราก็บอกว่าเรามีน้องหมามา นี่ถ้าเนียนเดินไปเฉยๆ ไม่รู้เขาจะรู้เปล่า เพราะเขามองไม่เห็นกระเป๋าน้องหมาเรา

จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็จะตรวจหาชิพ ดูเอกสารที่เรามี จากนั้นก็ให้ใบสีเหลืองให้เรากลับมาว่า ได้ผ่านการตรวจแล้ว

อ่า…เหนื่อยยากมาก แต่ก็ผ่านไปด้วยดีกว่าที่เราคิด
รวมทั้งหมดแล้วมีค่าใช้จ่ายในการเตรียมและพาน้องหมาเดินทางออกจากประเทศอเมริกาฯ มาประเทศเกาหลีใต้นั้นประมาณ $955 หรือประมาณ 30,000หมื่นกว่าบาทค่ะ

และควรเผื่อเวลาในการดำเนินการล่วงหน้าประมาณ 2-3 เดือนทุกครั้งที่เดินทางออกนอกประเทศอเมริกา!

แล้ว จัมไม จะอยู่อย่างไรในเกาหลี(ใต้) โปรดติดตาม…

About Jam

I'm Jam, the blogger, and illustrator of this website. I live in Bangkok, Thailand and Louisiana, USA when I'm not travelling.

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *