ซีอาน-สุสานจิ๋นซี

Click here for English version “Day4 Terra Cotta Warriors in Xian”

วันที่4 ของโปรแกรมทัวร์ แต่เป็นวันที่1 ในซีอานค่ะ วันนี้ตามโปรแกรมทัวร์คือพาชมพิพิธภัณฑ์พิพิธภัณฑ์กองทัพทหารดินเผาจักรพรรดิจิ๋นซี – สุสานจิ๋นซี(แต่ไม่ได้ไป ไกด์บอกว่าเขายังไม่เปิด ไปก็เห็นแต่ปลายเขา แถมไกลกันมาก…ก็เชื่อไกด์ค่ะ เลยนั่งเสียดายที่บ้าน!) และก็พาชมเจดีย์ห่านป่าใหญ่ ขากลับค่ะ

เคยดูหนังจีนหรือสารคดีเกี่ยวกับเมืองจีนแว่บๆ (ตั้งแต่ยังเด็กมาก) เรื่องสุสานจิ๋นซีฮ่องเต้ ที่เป็นกองทัพทหารหุ่นรูปปั้นดินเผานาดเท่าตัวจริง ก็ติดตาติดใจว่าช่างน่าตื่นเต้นและมหัศจรรย์ และคิดว่าถ้ามีโอกาสก็จะไม่พลาด ครั้งนี้ก็เช่นกัน เนื่องจากคิดว่าเฉิงตูคงไม่มีอะไรมาก ประกอบกับปรึกษาบริษัททัวร์ เขาก็แนะนำว่า น่าไป! เราก็เลยให้เขาจัดให้…

ก่อนจะเดินทางยังไม่รู้เลยว่าเมืองซีอานอยู่ตรงไหนของประเทศจีน เมืองซีอาน จะอยู่ระหว่างเมืองเฉิงตู กับ ปักกิ่ง  เมืองซีอานอยู่ในมณฑลซานชี เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของจีน
และยิ่งไกด์บอกเราว่า ถ้าอยากเห็นปัจจุบันของจีนต้องไปปักกิ่ง ดูอนาคตของจีนต้องไป เซี่ยงไฮ้ และถ้าอยากเห็นอดีตของจีนต้องไปซีอาน  ทำให้ทราบทันทีว่า เราจะได้เห็นประวัติศาสตร์ของชาติจีนที่ซีอานแน่ๆ ค่ะ

มาเริ่มเล่าเรื่องที่โรงแรมสกายเทล (Skytel) ซึ่งเป็นโรงแรมที่รวมมากับแพคเกจทัวร์ค่ะ ความจริงแล้ว โรงแรมนี้ทำเลดีมาก เดินไปทางไหนก็มีแต่ห้างฯ แถมใกล้ตลาดคนเดิน (ที่เราจะกล่าวในวันต่อไป) ห้องโรงแรมก็สวย กว้าง สะอาด แต่ว่าทำไม ห้องน้ำเหม็นมากๆ ที่ยิ่งไปกว่านั้น อาหารเช้า นอกจากไม่สดแล้ว ยังไม่รู้ว่าเน่าหรือเปล่า? (การจัดห้องอาหารก็วังเวง น่ากลัว มีฉากกั้นหน่อยเดียวก็เป็นห้องสวด ทำให้บรรยากาศน่ากลัวเข้าไปอีก…) คืนแรก กับอาหารเช้าวันแรก ก็ทนเอา คิดว่าอีกแค่คืนเดียว แต่พวกเราก็คิดว่า หากจะมาที่นี่อีก คงไม่พักที่โรงแรมนี้อีกแล้ว!

ไกด์และคนขับรถ นัดเรา 9 โมงเช้า เป็นไกด์ผู้หญิงค่ะ ชื่อเคธี้ เป็นไกด์ที่ดูเงียบๆ เรียบร้อยๆ (ซึ่งแตกต่างกับบุคลิกของหญิงสาวจีนทั่วๆไป) ไม่ค่อยมีมุขตลกอะไรเลย แต่ก็ได้ความสุภาพและน่ารักไปอีกแบบ
เธอบอกว่า ขับรถออกจากเมืองเพื่อไปสุสานจิ๋นซีฮ่องเต้ใช้เวลาประมาณ เกือบๆ 1 ชั่วโมง โดยแว่ะที่โรงงานทำหุ่นรูปปั้นดินเผาก่อน และมีไกด์ภายในโรงงานพาชมโรงงานค่ะ ทำให้เราได้รู้ได้เห็นการทำงาน ที่เน้นคุณภาพของนาน โดยแม้กระทั่งประเภทของดินที่ใช้ทำหุ่นปั้นดินเผาก็ต้องเป็นดินชนิดพิเศษ งานที่ทำก็มีหลายเกรด และหลายขนาด

ขอแนะนำว่า ถ้าต้องการซื้องานปั้นดีมีคุณภาพ ต้องตัดสินใจซื้อที่นี่เลยค่ะ (ก็แพงตามเนื้องานและสถานที่) แต่ถ้าต้องการงานประมาณใช้ได้ ตั้งโชว์ที่บ้านเราใครแล้วก็ดูไม่ออก ว่าเกรดไหน ก็ให้ไปซื้อแถวๆ พิพิธภัณฑ์ฯ ค่ะ ราคาถูกกว่าเยอะมากๆ ต่อรองได้…(ก็เป็นภาระค่ะ แบกกลับประเทศไทย หนักก็หนัก แถมกลัวแตกอีกต่างหาก แต่พอถึงบ้านก็ดีใจ จตุจักรก็มีขาย!!!)

ภาพ: ขนาดหุ่นรูปปั้นดินเผา ขนาดเท่าของจริงในพิพิธภัณฑ์ (เมื่อเทียบกับขนาดคนจริง) สนนราคาประมาณ 14,800Y หรือประมาณ 74,000 บาท

และที่โรงงานแห่งนี้นี่เอง เขาก็แนะนำว่าหุ่นทหารนั้นแบ่งออกเป็น 4 ประเภทคือ

General หรือ ประมาณนายพลค่ะ ใหญ่สุด โดยสังเกตุจากหมวกที่สวม จะเป็นเหมือนหยักสองหยัก
Offier หรือประมาณ แม่ทัพ โดยหมวกจะเป็นรูปเหลี่ยม
Soldier หรือ พลทหาร โดยจะมัดจุกด้านขวามือ
Archer หรือ พลธนู จะมัดจุกด้านซ้าย ไกด์บอกว่า อาจจะเป็นเพราะว่า เวลาหยิบลูกธนูที่พาดบ่าขวา ลูกธนูจะได้ไม่ติดจุกผม เลยมัดไปทางซ้ายแทน!

จากนั้นไม่เพียงกี่นาทีก็ถึงพิพิธภัณฑ์กองทัพทหารดินเผาจักรพรรดิจิ๋นซี แต่ใน Wikipedia เรียกว่า “สุสานฉินสื่อหวง” เป็นสถานที่สำคัญที่สุดของเมืองซีอาน ที่ได้รับการประกาศรับรองจากองค์กรยูเนสโก้ให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมของโลกในปี พ.ศ. 2530
หุ่นปั้นนักรบกองทหารอารักขาสุสาน ซึ่งถูกฝังไว้ใต้ดินพร้อมกับจักรพรรดิจิ๋นซีฮ่องเต้ สุสานฉินสื่อหวงได้ค้นพบโดยบังเอิญเมื่อ 29 มีนาคม พ.ศ. 2517 โดยชาวนาในหมู่บ้านซีหยาง ชื่อ หยางจื้อฟา ในขณะที่ขุดดินเพื่อทำบ่อน้ำ บริเวณเชิงเขาหลีซาน ห่างจากตัวเมืองซีอาน โดยในระหว่างที่ขุดนั้น ก็บังเอิญพบกับซากของทหารดินเผา ที่ทราบภายหลังว่ามีอายุมากกว่า 2,000 ปี!

ว่ากันว่าสุสานแห่งนี้ใช้แรงงานทาสเป็นจำนวนถึง 726,000 คน ใช้เวลาก่อสร้าง 36 ปี

พิพิธภัณฑ์แบ่งตัวอาคารออกจากกันเรียกเป็นหลุม (Pit) จริงๆ มีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 8 หลุม แต่ในปัจจุบันมีการขุดค้นเพียงแค่ 3 หลุมเท่านั้น เพราะรัฐบาลจีนยังไม่ต้องการทำการขุดค้นอย่างต่อเนื่อง เพราะเกรงว่าสีของหุ่นทหารดินเผาที่ขุดพบนั้นจะหายไป


ไกด์พาเราเข้าชม หลุมหมายเลข1 มีขนาดกว้างใหญ่ที่สุดในบรรดาหลุมทั้ง 3 เป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า เนื้อที่ 14,260 ตร.ม. มีขนาดความกว้างประมาณ 197 ฟุต (62 เมตร) ยาว 689 ฟุต (230 เมตร) และลึก 14.8 – 21.3 ฟุต (5 เมตร) ประกอบไปด้วยกองทัพทหารติดอาวุธครบมือจำนวนมากกว่า 6,000 ตัว รถศึกพร้อมม้าเทียมรถศึกอีกรวม 40 คัน ไกด์บอกว่า ดูจากลักษณะม้าที่ใช้ทำศึกในสมัยนี้ คาดว่าเป็นม้านำเข้า เพราะไม่ใช่ลักษณะม้าของจีน (แต่ก็ไม่สามารถบอกว่า นำเข้ามาจากประเทศใด…)
หุ่นดินเผาทุกตัวมีโครงหน้า สีหน้าและทรงผมที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ไม่เหมือนกันแม้แต่ตัวเดียว มีขนาดความสูงราว 5 ฟุต 8 นิ้ว จนถึง 6 ฟุต 5 นิ้ว

แบบจำลอง หลุมที่ 1 โดย National Graphic

ภาพบน เป็นภาพที่เสียเงินถึง 150Y หรือประมาณ 750บาทค่ะ โดยจะมีเจ้าหน้าที่คอยถ่ายรูปให้ ตอนแรกนึกว่าได้ลงไปยืนข้างล่างกับหุ่นของจริงเลย แต่พอถ่ายจริงๆ ก็คือยืนบนแท่นด้านบนอยู่ดี แถมรูปจริงๆ ก็ไม่ค่อยสวยนะ เขาจะปริ๊นให้เลย ขนาดประมาณ 6×8นิ้ว ใส่มาพร้อมกับหนังสือเกี่ยวกับพิพิธภัณฑ์ (บางๆ) ถ้ามีกล้องดีๆ ไปเอง ขอแนะนำว่าถ่ายเองดีกว่า ยืนใกล้หุ่นกว่ากันหน่อยเดียวเอง แถมเจ้าหน้าที่ที่ถ่ายให้ก็ดุ ขอเอาไอโฟนถ่ายหน่อยหนึ่ง ก็ไม่อนุญาติอ่ะ…

ภาพนี้ถ่ายกันเอง ฟรี แต่ก็ดูดีกว่าแบบเสียเงินเยอะเลย…

ในอดีตเริ่มแรกของการขุดพบกองทัพทหารดินเผาจากสุสานใต้ดินนั้น หุ่นทหารเหล่านี้มีแก้มเป็นสีชมพู สวมเครื่องแต่งกายที่มีสีสันสดใสที่ทาสีเอาไว้อย่างสวยงาม โดยส่วนใหญ่จะสวมเสื้อสีชมพู กางเกงสีเขียวและฟ้า แต่ทว่าเมื่อหุ่นทหารดินเผาถูกอากาศและแสงแดด เกิดปฏิกิริยาทางเคมีทำให้สีของหุ่นทหารดินเผาลอกหายไป เปลี่ยนเป็นสีดำอย่างน่าเสียดาย

ขอบคุณภาพจาก National Geographic


ด้านหลังๆ ของหลุมที่1 ก็เป็นงานหุ่นที่ขุดเจอแล้วกำลังจะปะติดปะต่อกันให้เป็นรูปร่าง ดูแล้วไม่ใช่งานง่ายๆ เลยค่ะ

ไกด์พาเราเดินออกไปทางหลุมหมายเลข 3ก่อน เนื่องจากว่า หลุมหมายเลข2 อยู่ใกล้ทางออก

หลุมหมายเลข 3 เป็นรูปตัว U รัฐบาลจีนขุดค้นพบในปี พ.ศ. 2519 เป็นหลุมที่เล็กที่สุด แต่มีความสำคัญที่สุดยิ่งกว่า หลุมหมายเลข 1 และ 2 เนื่องจากเป็นกองบัญชาการสูงสุด โดยกองทัพทหารดินเผาทุกตัวมีอาวุธครบมือ นอกจากนี้ยังพบเขากวางและกระดูกสัตว์ ซึ่งใช้เป็นเครื่องรางของขลังซึ่งเข้าใจว่าเป็นเครื่องที่ใช้ในการประกอบพิธีบูชายัญในพิธีศพอีกด้วย ซึ่งหลุมที่ 3 นี้เปิดให้สาธารณชนได้เข้าชมในปี พ.ศ. 2532
ในหลุมที่ 3 ยังมีห้องถ่ายรูปไว้บริการ (ภาพล่าง) โดยจัดภาพเหมือนกับหลุุมที่ 1 เป็นภาพหลังแบบ 3มิติ ให้ความรู้สึกว่าถ่ายกับหุ่นทหารของจริง ค่าถ่ายรูปคนละ 10Y (คิดเป็นคนค่ะ) ภาพออกมาก็ดูดีกว่าแบบ 150Y นิดหน่อย แต่ถูกกว่าเยอะ!

ภาพถ่ายกับฉาก 3มิติด้านหลัง ดูแล้วคล้ายๆ กับถ่ายกับหุ่นจริง…

จากนั้นก็เดินไปที่หลุมหมายเลข2 เป็นรูปตัว L ได้ขุดพบในปี พ.ศ. 2519 เป็นหลุมเดียวที่เป็นอาคารติดแอร์! หลุมรูปปั้นกองทัพทหารดินเผาหลุมที่ 2 รัฐบาลจีนทำการขุดค้นหาพบหุ่นทหารดินเผาจำนวนกว่า 1,000 ตัว ม้าศึก 500 ตัวและรถม้าที่ทำจากไม้ 89 คัน เปิดให้สาธารณชนได้เข้าชมและศึกษาเกี่ยวกับโบราณวัตถุทางประวัติศาสตร์ในปี พ.ศ. 2538

ทางเดินออกจากหลุมหมายเลข2 ยังเป็นพิพิธภัณฑ์เครื่องสำริด ที่ได้ขุดเจอในโลงไม้ เพราะเมื่อเปิดฝาโลงออกก็พบกับขบวนรถม้าสำริดจำลอง ฝีมือประณีตสวยงาม




เต็มอิ่มแบบว้าว ว้าว กับพิพิธภัณฑ์ที่ยิ่งใหญ่ ที่นี่แหล่ะที่เขาว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่ 8 ของโลกอย่างแท้จริง!

ได้เวลามื้อเที่ยง ของฟรีค่ะ เพราะว่ารวมอยู่ในโปรแกรม…แต่แปลก อาหารที่ซีอาน ไม่อร่อยเท่าเฉิงตู…
มาต่อกันที่ เจดีย์ห่านป่าใหญ่ วัดพระถังซัมจั๋ง วัดนี้เคยเป็นอารามหลวงที่สร้างขึ้นโดยฮ่องเต้ถังเกาจง เพื่อตอบแทนคุณมารดา หลังจากสร้างเสร็จได้นิมนต์พระถังซัมจั๋งมาเป็นเจ้าอาวาส และแปลพระคัมภีร์พระไตรปิฎกที่นำมาจากอินเดีย พระถังซัมจั๋งได้เป็นผู้ออกแบบและร่วมสร้างเจดีย์ห่านป่าขึ้นเพื่อเก็บพระไตรปิฎก ลักษณะของเจดีย์จะคล้ายแบบอินเดีย มี 7 ชั้น สูง 64.7 เมตร ในสมัยก่อนจะสร้างเจดีย์ด้วยดินทั้งหมด แต่พอมาในสมัยราชวงศ์หมิง ได้รับการบูรณะเป็นอิฐทั้งหมด

จริงๆ ข้อมูลเกี่ยวกับ เจดีย์นี้ได้มาจากการค้นหาทางเว็บค่ะ ไกด์ไม่ได้อธิบายอะไรมาก ถามว่าทำไมถึงชื่อเจดีย์ห่านก็ตอบไม่ได้ ประกอบกับแก้ตัวว่า ไม่ได้นับถือศาสนาพุทธ เลยไม่ค่อยมีความรู้ที่จะบรรยายที่นี่…มันเกี่ยวกันไหมอ่ะ???

แต่เราไปสืบหามาว่า มีตำนานเล่าขานกันว่าพระถังซัมจั๋งได้สร้างเจดีย์องค์นี้ขึ้นตรงตำแหน่งที่มีห่านป่าตกลงมา ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่แปลก และเชื่อว่าห่านป่าตัวนั้นเป็นพระโพธิสัตว์ พระถังซัมจั๋งจึงสร้างเจดีย์ขึ้นเพื่อเป็นระลึกถึงพระโพธิสัตว์พระองค์นั้น รวมไปถึงใช้พระเจดีย์เป็นที่เก็บรักษาพระบรมธาตุรวมทั้งพระคัมภีร์ที่อัญเชิญมาจากประเทศอินเดีย


พระถังซัมจั๋งที่เราเคยดูเรื่องไซอิ๋วมาตั้งแต่เด็ก เป็นบุคคลที่มีอยู่จริงในประวัติศาสตร์จีน เดิมชื่อ เสวียนจั๋ง (Xuanzang) นี่แหล่ะค่ะ เจ้าอาวาส คนแรกแห่งเจดีย์วัดห่านป่าใหญ่

วันนี้ก็จบทัวร์แค่นี้ค่ะ จริงๆ ไกด์เขาก็ชวนให้ไปชมโชว์พื้นเมือง แต่ถามไปถามมาเหมือนกับว่าเป็นโชว์เครื่องดนตรี และเพลงพื้นเมือง เราก็เลยไม่ได้สนใจ ประกอบกับ ไกด์เขาไม่ค่อยมีทักษะในการพูดชักจูงเท่าใด???

เย็นวันนี้เราก็เลยกลับไปเดินเล่นชิวๆ กันเอง
เอาไว้อ่านต่อวันที่5 ของโปรแกรมทัวร์จีนครั้งนี้ แต่ว่าเป็นวันที่2 ในซีอาน ที่ไกด์นัดเราตอนเที่ยง (อาจจะเป็นเพราะว่าตั๋วเครื่องบินบินกลับเฉิงตูเราประมาณ 1 ทุ่ม…) เราจะไปทัวร์กำแพงเมืองซีอาน ศาลหลักเมือง(Bell Tower) และก็ช็อปปิ้งที่แถวหมู่บ้านมุสลิมกันค่ะ

ตอนอื่นๆ ที่เกี่ยวกับทริปนี้:  วันที่ 1 เมืองเฉิงตู : วันที่ 2 หลวงพ่อเล่อซาน : วันที่ 3 เทือกเขาเอ๋อเหมยซาน

About Jam

I'm Jam, the blogger, and illustrator of this website. I live in Bangkok, Thailand and Louisiana, USA when I'm not travelling.

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *